สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 ต.ค.65 เปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 - นายกฯตรวจน้ำท่วมนนทบุรี - จับฆาตกรต่อเนื่อง

โดย thichaphat_d

14 ต.ค. 2565

36 views

-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม 2565

ขณะที่ประชาชนทั้งไทยและต่างชาติ เดินทางเข้าชมพระบรมราชานุสาวรีย์ อย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน และมีจิตอาสา นำรถจักรยานยนต์มาคอยรับส่งผู้มาเข้าชมต่อเนื่อง

-กองปราบปรามบุกจับ หนุ่มวัย 27 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ชอบแชตลวงสาว หลอกให้หลงรัก แล้วนำตัวมาขังในห้องพัก พร้อมขืนใจ และทารุณกรรมอย่างหนักจนเสียชีวิต มีประวัติก่อเหตุโชกโชน ครั้งนี้ยังช่วยเหลือเหยื่อรายล่าสุด เป็นหญิงสาววัย 31 ที่ถูกซ้อมทรมานปางตาย ตำรวจเชื่อมีความคิดผิดปกติ บวกกับฤทธิ์ยาบ้าที่เสพวันละ 10 กว่าเม็ด เร่งขยายผลช่วยเหลือเหยื่อรายอื่น

-มิกกี้ สามี เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เดินทางมาพร้อมคุณแม่ เพื่อดูหน้าผู้ต้องหาหมิ่นประมาท โพสต์บูลลี่ลูกสาว น้องโนล่า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย หลังถูกตำรวจไซเบอร์จับกุม ถือเป็น 1 ในหลายสิบคนที่ถูกแจ้งความไว้ ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

-หนุ่มสุดกร่าง ไม่พอใจ รปภ.ขอให้แลกบัตร ด่ายับ ท้าต่อย พูดจาข่มขู่  ลั่นมาทุกวัน จำไม่ได้หรอ ด้าน รปภ.สุดงง ทำตามระเบียบหมู่บ้าน เหตุใดถึงหัวร้อนแบบนี้ ตำรวจลงพื้นที่ เจอตัวต้นเรื่องพอดี เจ้าตัวอ้างหงุดหงิดเพราะถูกถามทุกวัน เลยถูกคุมตัวไปโรงพัก ญาติโร่แจง ชายคนนี้มีอาการป่วยจิต อยู่ระหว่างรักษาตัว ก่อนเข้าไปขอโทษ รปภ. รับสำนึกผิด แต่ถูกปรับ 1 พันบาท

-เตือนภัย! ชายวัย 60 กินขนมเค้ก แล้วปวดท้องหนัก แพทย์ผ่าตัดถึงกับผงะ เจอะเศษพลาสติก ประดับขนมเค้ก ขนาดเท่าหัวแม่โป้ง ยาวประมาณ 4-5 ซม. โผล่ทะลุลำไส้เล็ก เคราะห์ดีช่วยได้ไว เลยไม่อักเสบรุนแรง


เรื่องเล่าการเมือง

-วานนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยที่ จ.นนทบุรี มีปรับจุดการลงพื้นที่นิดหน่อยเพื่อเลี่ยงกลุ่มต่อต้าน

ตามแผนแรก นายกฯจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมใน 2 จุด คือ ที่ชุมชนวัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร ต.สวนใหญ่ อ.เมือง นนทบุรี และที่ชุมชนวัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด แต่เนื่องจาก นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ แกนนำกลุ่มราษฎรนนทบุรี เตรียมระดมคนเพื่อมาต่อต้านการลงพื้นที่นายกฯ โดยได้มีการปลุกระดมให้มีการเตรียมถุงอุจจาระ ถุงเลือดและน้ำปลาร้ามาปาใส่นายกฯในขณะลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงเตรียมตั้งจุดสกัดไว้และเตรียมรถผู้ต้องขังไว้ด้วย

ส่วนนายกฯ ไม่ได้เดินทางไปที่ชุมชนวัดเขมาฯ แต่มาที่จุดที่สองเลย คือ ชุมชนวัดแสงสิริธรรม ซึ่งระหว่างเดิมเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน นายกฯได้พูดคุยกับนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ ถึงกลุ่มคนที่เตรียมมาต่อต้านการลงพื้นที่ของตนเองที่จุดวัดเขมาภิรตารามฯ พร้อมระบุว่า การลงพื้นที่อยากมาช่วยเหลือจริงๆ ทำไมต้องมีแบบนี้ด้วย

ทั้งนี้ หลังฟังบรรยายสรุป จากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนนทบุรี ถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำในจังหวัดนนทบุรี นายกฯ ได้เดินเข้าไปเยี่ยมประชาชนในชุมชน พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และทักทายอย่างเป็นกันเอง

ช่วงหนึ่งนายกฯไปเจอคุณยายซึ่งเปิดร้านขายของชำ บอกกับนายกฯว่า เมื่อน้ำท่วมก็ต้องอยู่แบบนี้ จนกว่าน้ำจะลด จากนั้นได้ขอให้นายกรัฐมนตรีถอดแมสก์ออกเพื่อดูใบหน้าชัด ๆ ก่อนจะบอกว่า ทำไมดูหนุ่มกว่าในทีวี ขณะที่นายกฯยิ้มเขิน บอกว่า เขาเลือกแต่ภาพแก่ ๆ ออกมา และชมคุณยายกลับว่ายังสาวอยู่เลย คุณยายตอบกลับว่าอายุ 76 แล้วนะ

อีกช่วง นายกฯไปเจอสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ จึงพูดคุยกับชาวบ้านเรื่องสุนัข ถามชื่อสุนัข และถามว่า "สุนัขกับแมว" มีนิสัยแตกต่างกันอย่างไร

ทั้งนี้ระหว่างลงพื้นที่ก็มีชาวบ้านมาตะโกนให้กำลังใจนายกฯ ขอให้สู้ๆ ขอให้นายกฯยิ้มหน่อยเพราะนายกฯมีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมบอกว่า รักลุงตู่ขอให้ลุงตู่อยู่ยาว ซึ่งนายกได้ทำท่าประจำ คือ ทุบอกพร้อมส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ขณะที่บางคนเข้ามากอด ขอถ่ายภาพด้วย และบางจุดมีเด็ก ๆ มารอให้กำลังใจด้วย

หลังตรวจเยี่ยมเสร็จ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ ระบุถึงสถานการณ์น้ำปีนี้ว่า ถือว่าไม่ปกติ มีมากกว่าเดิม ขอให้ชาวบ้านเรียนรู้และปรับตัวให้ได้ รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาและทำโครงการต่าง ๆ แต่ระหว่างยังแก้ปัญหาไม่ได้ก็ต้องแก้ที่ตัวเองไปก่อน และชื่นชมที่ในพื้นที่ดูแลกันอย่างดี และยังมีรอยยิ้มให้นายกฯด้วย


-การปรับครม. หลังพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอชื่อ นายนริศ ขำนุรักษ์ นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ นายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งท่านก็ได้แจ้งว่า “ขอให้รอดูจังหวะ”

ถือเป็นความคืบหน้าในการปรับครม. ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อย่างน้อย 1 ตำแหน่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากเมื่อวานนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้แจ้งมติที่ประชุม เสนอชื่อ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส. พัทลุง ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออก

ทั้งนี้ ภายหลังพิธีทำบุญตักบาตร ท่านนายกฯ ได้เดินทักทาย ครม. มีช่วงหนึ่งได้ยืนพูดคุยกับนายจุรินทร์ และกล่าวช่วงท้ายการทักทายว่า “ขอให้รอจังหวะ”

ขณะที่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระบวนการจากนี้เป็นขั้นตอนดำเนินการของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่มีหลายคนลงชิงตำแหน่ง ยืนยันว่าไม่มีปัญหาความสัมพันธ์ภายในพรรค เพราะเราเป็นสถาบันการเมือง เมื่อเป็นมติทุกคนก็เคารพ และถือเป็นที่ยุติ



-ส่วนต่อเนื่องกรณีที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ มีมติเสียงข้างมาก ประณามรัสเซียผนวก 4 แคว้นของยูเครน ขณะที่ไทย เป็น 1 ใน 35 ประเทศที่งดออกเสียง เมื่อวานนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงถึงการลงมติดังกล่าว

ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีการจัดลงมติประณามรัสเซีย ในการผนวก 4 แคว้นของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย โดยมี 143 ประเทศจาก 193 ประเทศสมาชิก ที่ลงมติสนับสนุนข้อมติดังกล่าว ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่งดออกเสียง 35 ประเทศ ร่วมกับประเทศลาว จีน และอินเดีย

เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่รายละเอียด ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เป็นเอกสารภาษาอังกฤษจำนวน 2 หน้า ระบุเป็นคำอธิบายภายหลังการลงคะแนนเสียง โดย ดร.สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ มีเหตุผล 4 ข้อ

ประเด็นสำคัญ คือระบุว่า การที่ประเทศไทยตัดสินใจงดออกเสียง ในมติดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเปราะบาง จึงเป็นการลดทอนโอกาสสำหรับการทูต ในภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นทางออกสู่การเจรจาที่สันติ จนอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามนิวเคลียร์และการล่มสลายทางเศรษฐกิจโลก

อีกทั้ง ประเทศไทย ยังกังวลต่อการแบ่งขั้วการเมืองที่สูงขึ้นในหลักการระหว่างประเทศ การประณามนั้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดการความขัดขืน และลดทอนโอกาสในการมีส่วนร่วมหรือปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์

โดยไทย เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในโศกนาฏกรรมนี้ในยูเครน จะต้องลดความขัดแย้ง ด้วยกลไกทางการทูต ที่สามารถนำสันติสุขกลับมาได้จริงและโดยถาวร


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/b0J5AB4Yuys


คุณอาจสนใจ

Related News