เลือกตั้งและการเมือง
“ไอติม” ยกผลงาน “250 สว.” คือ การแช่แข็งประชาธิปไตย ดักคออย่าตีรวนกระบวนการเลือกสว.ชุดใหม่ให้ล่าช้า
11 พ.ค. 2567
178 views
“ไอติม” ยกผลงาน “250 สว.” คือ การแช่แข็งประชาธิปไตย ดักคออย่าตีรวนกระบวนการเลือกสว.ชุดใหม่ให้ล่าช้า ขณะ “จาตุรนต์” ย้ำต้นตอมาจากระบบ ที่ออกแบบโดยไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนสิริพรรณ หวังกกต.ทบทวนผ่อนปรนระเบียบ แนะควรให้ปชช.มีส่วนร่วม มากกว่าสร้างบรรยากาศความกลัว ด้านประจักษ์ เปรียบคัดเลือกสว.ชุดใหม่ เป็นระบบพิสดาร เหมือน “สว.กล่องสุ่ม” ขอบคุณ “สว.ชุดคสช.” ช่วยเปิดหน้าต่างแห่งโอกาส ถกเถียงว่า ทำไมต้องมีสว. ถึงเวลาเปลี่ยนเป็นสภาเดียวหรือไม่
สถาบันปรีดี พนมยงค์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานเสวนาทางวิชาการ วันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2567 | PRIDI Talks #25 เก่าไปใหม่มา : สว. ชุดใหม่ อนาคตประชาธิปไตย อนาคตประเทศไทย โดยมีตัวแทนนักการเมือง // นักวิชาการ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ สส.พรรคเพื่อไทย // นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฏร // ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดยนายจาตุรนต์ กล่าวถึง สว.ชุดปัจจุบัน ว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นคนดี หรือคนไม่ดี เพราะเป็นเรื่องของระบบ ที่ให้อำนาจ สว.ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าที่เคยมีมาในอดีต และถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ตามที่ผู้มีอำนาจออกแบบมา ดังนั้นหากจะมีสิ่งที่อยากฝาก คือ ในช่วงรักษาการระหว่างมีสว.ชุดใหม่ เนื่องจากไม่มีกติกาเหมือนรัฐบาลรักษาการ จึงขอว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำจะดีกว่า
นายจาตุรนต์ ยังพูดการเลือกสว.ชุดใหม่ ว่าสิ่งที่กกต.ทำอยู่ เป็นการออกระเบียบเกินกว่ากฎหมาย และจำกัดเสรีภาพของประชาชน ทั้งผู้สมัคร สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ “ถามว่าจะเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยอย่างไร เมื่อออกแบบโดยประชาชนไม่เกี่ยว”
สิ่งที่คาดหวังจากสว.ชุดใหม่ คืออย่างไรก็ดีกว่าสว.ที่กำลังหมดวาระ ต้องผลักดัน สว.อย่างน้อย 67 คนขึ้นไปที่พร้อมสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีสสร.มาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหาใหญ่ ที่ไม่เชื่อมโยงกับประชาชน “กกต.ควรทำให้ระเบียบเกิดความชัดเจน ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม เปิดกว้างการรณรงค์ นี่จะช่วยให้สว.มีความเชื่อมโยงกับประชาชน”
ขณะที่นายพริษฐ์ พูดถึงสว. 250 คนชุดปัจจุบัน ว่า ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ที่มีอยู่ คือ การแช่งแข็งประชาธิปไตยของประเทศ ถือเป็นรูปธรรมของปัญหาที่เกิดขึ้นตามรัฐธรมนูญปี 60 โดยเฉพาะ 3 เรื่องสำคัญ ทั้งบทบาทการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่แทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล // การขัดขวางแก้ไขรัฐธรรมนูญ // การรับรององค์กรอิสระ ที่ใช้อำนาจปฏิเสธบุคลากรหลายคน และถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับทัศนคติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อหรือไม่
จึงขอฝากว่า “ท่านออกไปแล้ว อย่าพยายามตีความอำนาจมีอยู่ ตีรวนกระบวนการเลือกสว.ชุดใหม่ให้ล่าช้า และ ส่วนที่ยังมีอำนาจ อย่าไปตัดสินใจอะไรที่ผูกกับอนาคตของประเทศ”
นายพริษฐ์ พูดถึง โครงสร้างที่มาของ สว.ชุดใหม่ อาจดีขึ้นกว่าชุดที่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ยังห่างไกลจากความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นการลดความเสียหายได้ คือทำอย่างไรให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจสว.ชุดเก่า ไปสุ่ชุดใหม่ เกิดความราบรื่น รวมถึงการคัดเลือก ที่แม้ไม่ใช่การเลือกตั้ง อย่างน้อยก็ควรให้ประชาชนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น เข้าสังเกตการณ์ ตรวจสอบได้กว้างขวางที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า แม้กติกา ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่อยากเชิญชวนประชาชนให้ความสำคัญ เพราะความสำคัญของสว. โดยเฉพาะการกำหนดทิศทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นายประจักษ์ ระบุว่า หากจะตัดเกรด สว.ชุดที่ผ่านมา ตนให้เต็ม 10 ในแง่การรักษาระเบียบอำนาจเดิมของคสช. ถือเป็นลูกจ้างที่ซื่อสัตย์กับคนที่ตั้งขึ้นมา แต่ถ้ามองการส่งเสริมประชาธปไตยและตรวจสอบถ่วงดุล เห็นว่าต้องให้คะแนนเป็น 0 ถ้าจะเปรียบเทียบความโดดเด่นของสว.ชุดนี้ ตนมองว่า เป็นสว. ที่มีบทบาทขัดขวาง กัดเซาะประชาธิปไตย
แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอบคุณสว.ชุดนี้ ว่ามีคุณูปการที่สำคัญ เพราะช่วยทำลายมายาคติว่า สว. คือสภาคนดี สภาพี่เลี้ยง มีหน้าที่ถ่วงดุลผู้มีอำนาจ นี่ทำให้เปิดหน้าต่างแห่งโอกาส ให้เกิดการถกเถียงว่า เราจำเป็นต้องมีสว. และควรเปลี่ยนเป็นสภาเดียวเลยหรือไม่
นายประจักษ์ ยังพูดถึงกระบวนการเลือกสว.ชุดใหม่ ตนมองว่า เป็นความพิสดารโดยตั้งใจ เพราะนี่ไม่ใช่ระบบการเลือกตั้ง หรือการแต่งตั้ง แต่เป็นระบบที่ผมเรียกว่า “ครึ่งบกครึ่งน้ำ” ซึ่งสิ่งที่ผู้ออกแบบเคยทดลองใช้มาแล้ว ช่วงปลายปี 2561 “เขาใช้ระบบการเลือกสรร ใช้งบหลายร้อยล้านบาท ทั้งประเทศมีคนสมัคร 7 พันกว่าคน บางจังหวัดมีคนไปสมัคร 10 คน ซึ่งไม่ตอบโจทย์การเป็นตัวแทนประชาชน”
“ตนเห็นว่า สว.ชุดใหม่ เป็นเหมือน สว.กล่องสุ่ม เพราะไม่เป็นตัวแทนของใครเลย ไม่ยึดโยงประชาชน ไม่เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพไหน เพราะไม่ใช่กลุ่มอาชีพเลือกกันเองตลอดเส้นทาง นี่เป็นการดีไซน์มาเพื่อเรา ซึ่งไม่ใช่ประชาชน ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนทุกคนทำได้ตอนนี้ คือ ต้องไปสมัครกันให้เยอะที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีเดียวที่จะแก้เกมนี้ได้ รวมถึงฝากไปถึงกกต.ถึงข้อแนะนำต่างๆ ว่าจะเป็นโอกาสในการฟื้นเครดิตของกกต.กลับคืนมา”
ด้าน ศ.ดร.สิริพรรณ ตั้งข้อสังเกตการทำงานของสว.ชุดที่ผ่านมา โดยเฉพาะหน้าที่สำคัญในการปฏิรูปประเทศ คิดว่า 5 ปีไม่เห็นปฏิรูปในมิติใดที่ออกดอกออกผลเลย และในมุมกลับกัน สิ่งที่คิดว่าซ่อนเร้น คือ การสืบทอดอำนาจคสช. กลับเห็นภาพได้ชัดเจน ดังนั้นตนขอบคุณสว.ชุดนี้ ที่เป็นภาพสะท้อนจากการแต่งตั้งสว.โดยคณะรัฐประหาร และทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรต้องแก้ไขอย่างไร
ศ.ดร.สิริพรรณ พูดถึง การเลือกสว.ชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้น เห็นถึงความไม่ยึดโยงประชาชน และสิ่งที่กังวลใจ คิดว่า กกต ได้ออกระเบียบที่ทำเกินหรือทำนอกเหนือรัฐธรรมนูญ รวมถึงสร้างบรรยากาศความกลัว เพราะมีโทษรุนแรงกว่าการกระทำ เช่นตัดสิทธิ์การเสือง จึงคิดว่าอยากจะเห็น กกต.ผ่อนปรน หรือ อะลุ่มอล่วย ทั้งการการแนะนำตัวของผู้สมัคร และเปิดให้ประชาชนสังเกตการณ์ได้ ซึ่งตนเชื่อว่าแม้ระบบจะกีดกัน แต่หากประชาชารวมใจกันก็จะชนะระบบได้
สำหรับบรรยากาศภายในงานเสวนา ด้านนอก มีการตั้งโต๊ะให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ผู้ที่สนใจลงสมัคร ส.ว.ชุดต่อไป โดยช่วยตรวจสอบเช็กลิสต์คุณสมบัติที่ต้องมีและเอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อเดินทางไปสมัครวันจริง รวมถึง ยังมีการสำรวจความเห็นของคนที่มาร่วมงาน ว่า “ประเทศไทยควรยกเลิกสว.ใช้ระบบสภาเดี่ยว” เห็นด้วยหรือไม่ โดยใช้วิธีแปะสติ๊กเกอร์
นอกจากนี้ iLaw ยังมาร่วมจัดนิทรรศการ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของ ส.ว.ชุดพิเศษที่หมดวาระ ว่าภายใน 5 ปีที่ผ่านมา ทำอะไรและทิ้งมรดกอะไรไว้เราบ้าง
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,สว. ,เลือกตั้งสว. ,สมัครเลือกตั้งสว.