คุมตัวชายบำบัดยาคลั่ง หวั่นเกิดเหตุร้ายกับเด็ก - ผวาชายคลั่งถือไม้ไผ่แหลม บุกไปในวัดรีบแจ้ง ตร.มาช่วย

วานนี้ (วันที่ 7 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาโยงใต้ ว่ามีชายคลุ้มคลั่งเดินถือมีดตัดหญ้าอาละวาดในหมู่ 4 ต.นาโยงใต้อำเภอเมืองตรัง จึงแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ สภ.เมืองตรัง เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง พร้อมอุปกรณ์ไม้ง่าม ปืนไฟฟ้า เข้าระงับเหตุ



โดยทางตำรวจได้เร่งตามหาตัวชายคลุ้มคลั่งคนดังกล่าว พบว่า ได้วิ่งมาหลบหลังกำแพงบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น ก็ได้เข้าแสดงตัวเจรจา และใช้ไม้ง่ามล็อคตัวชายคนดังกล่าวไว้ได้ ทราบเพียงชื่อเล่น คือ นายบี อายุประมาณ 30 ปี ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ก็ยังคงมีอาการคุ้มคลั่ง พร้อมตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่และชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา ทั้งถามว่า “ใครเป็นคนแจ้ง” สลับกับพูดดีกับเจ้าหน้าที่บ้าง ขู่เจ้าหน้าที่บ้าง ขู่ชาวบ้านบ้าง ต่างๆ นานา



จากนั้นทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายบี และประสานทางโรงพยาบาลนาโยง ให้มารับตัวเพื่อนำไปสงบสติอารมณ์ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตรัง เพื่อนำตัวไปทำการบำบัดต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการตามหาตัว และควบคุมตัว นายบี ได้สำเร็จ



เบื้องต้นทราบว่า นายบี ชายคลุ้มคลั่งดังกล่าว บ้านอยู่พื้นที่ ม.3 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง ได้มาหาเพื่อนคือ นายหม่อง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ตั้งแต่เมื่อ 2-3 วันก่อนแล้ว และเมื่อวานนี้ นายบี ก็ได้โวยวายเสียงดัง พร้อมเดินถือมีดตัดหญ้า แล้วอาละวาดไปมาภายในหมู่บ้าน จนสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน และเด็กๆ ที่พบเห็น จนต่างไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวจะเป็นอันตราย กระทั่งล่าสุดในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยกกำลังมาควบคุมตัว ก่อนที่ นายบี จะคลุ้มคลั่งและก่อเหตุรุนแรงเหมือนอย่างเช่น จ.หนองบัวลำภู



สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่า นายบี เพิ่งหายจากการบำบัด ก่อนกลับมาอาลวาดแบบเดิม เนื่องจากมีอาการทางประสาท เพราะตอนนี้ยาเสพติดราคาถูกมาก 3 เม็ดแค่หลักร้อย พวกตนอยู่กันในพื้นที่ก็รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเห็น นายบี เดินถือมีดตัดหญ้า จะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย เพราะนายบี จะมีอาการแบบนี้ทั้งวันทั้งคืน ตนเองกลัวลูกหลาน เพราะอยู่กันเยอะ และเป็นชุมชนใหญ่



อีกทั้งตอนนี้ นายบี ก็มีอาการหนักแล้ว กลัวจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ รวมทั้งกลัวลูกหลาน และญาติจะถูกลูกหลง



ส่วนอีกราย เมื่อเวลา 16.00 น. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.นาโยง จ.ตรัง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุชายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และถืออาวุธ ภายในวัดช่องเปี่ยมราษฎร์ อ.นาโยง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.ช่อง ให้รับทราบ และประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เขต อ.นาโยง ให้รีบเดินทางไปตรวจสอบ



โดยขณะนั้นภายในวัดช่องเปี่ยมราษฎร์ (วัดกะช่อง) กำลังมีการเตรียมการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ และมีผู้คนไปร่วมจำนวนมาก ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก



นายหนูลัด ศรีเสน อายุ 70 ปี ญาติของผู้ที่มาจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ เล่าว่า ได้มีชายคนหนึ่งมีอาการคล้ายคนเมา เดินเข้ามาเอะอะโวยวายส่งเสียงดังอยู่ภายในวัด โดยที่มือถือไม้ไผ่ซึ่งมีลักษณะแหลมๆ อยู่ด้วย



ดังนั้น ผู้คนภายในงานจึงพยายามไปช่วยกันพูดปลอมประโลม เพื่อให้ชายคนดังกล่าวสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงจะสามารถเจรจาชายคนดังกล่าวให้หายจากอาการคลุ้มคลั่งไปได้ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปส่งที่บ้าน



อย่างไรก็ตาม บรรดาญาติๆ ของผู้ที่มาจัดงานบำเพ็ญกุศลศพอยู่ภายวัดก็ยังรู้สึกกังวลว่า ชายคนดังกล่าวอาจจะกลับมาก่อเหตุอีก จึงได้ขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยจัดกำลังดูแลความปลอดภัยในช่วงนี้ไว้ก่อน เพราะขณะเกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้พูดเป็นภาษาใต้กับผู้คนในงานว่า “ยางมีดอกหม้าย จับรถทีถิ” (ยางรถ จยย.มีดอกหรือไม่ ขอจับรถหน่อย) ทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะภายในงานมีเด็กๆ อยู่หลายคน เกรงว่าจู่ๆ ชายคนดังกล่าวอาจจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก แล้วก่อเหตุบุกเข้าไปจับตัวเด็กได้ ทุกคนจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังกันเป็นพิเศษ

https://youtu.be/eP3kGiHOT0g