พรุ่งนี้ 'บิ๊กป้อม' ยัน ลุยตรวจน้ำท่วม จ.ปทุมธานี เน้นการบริหารจัดการน้ำ ตามประตูระบายน้ำ

วันนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลาป่วย ไม่ได้เข้าร่วมประชุม คณะรัฐมนตรี แต่วันพรุ่งนี้ ทีมงานยังคงยืนยันว่า กำหนดการว่า จะลงพื้นที่ ตรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ พรุ่งนี้ เช่นกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มีกำหนดการลงพื้นที่น้ำท่วม ในจังหวัดเพชรบูรณ์


สื่อมวลชน ตั้งข้อสังเกตการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ หลังมีรายงานว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลาป่วย ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือ เป็นนัดแรก หลังนายกรัฐมนตรี กลับมาปฎิบัติหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยแจ้งว่า ป่วยเป็นไข้ โดนฝน ช่วงลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ชัยนาท -อ่างทอง -อยุธยา ด้าน พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สอบถามอาการป่วย


แม้วันนี้จะลาป่วย แต่พรุ่งนี้ พลเอกประวิตร ยังคงยืนยันกำหนดการเดิมที่จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ที่จังหวัดปทุมธานี ขณะที่นายกรัฐมนตรี ก็มีกำหนดการเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ที่จังหวัดเพชรบูรณ์


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุมชนย่านเศรษฐกิจ เทศบาลเมืองหล่มสัก ล่าสุด ระดับน้ำได้ลดลงสู่สภาวะปกติแล้ว ประชาชนต่างเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน ขณะที่ชุมชนรอบแม่น้ำป่าสัก ระดับน้ำยังท่วมสูง50-70 เซ็นติเมตร เช่นที่ ตำบลบ้านไร่ ตำบลตาลเดี่ยว ตำบลปากดุก ตำบลบุ่งคล้า ตำบลสักหลง หลายหมู่บ้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ยังคงถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ท่วมสูง ถนนภายในหมู่บ้านบางเส้นทาง รถไม่สามารถใช้สัญจรผ่านได้ เนื่องจากระดับน้ำมีความสูงราว 50-60 เซนติเมตร

ขณะที่ สถานการณ์น้ำในจังหวัดปทุมธานี ที่ พลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ ยังมีพื้นที่ที่ได้ผลกระทบ คือ ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เห็นนี้ คือเขตเทศบาลตำบลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ได้ช่วยนำหินคลุกเสริมแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในตามถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ประตูน้ำเชียงรากไปจนถึงพื้นที่รอยต่อตำบลบ้านกระแชง ซึ่งขณะนี้น้ำได้เอ่อล้นสูงกว่าถนนแนวกั้นน้ำไปแล้ว หากไม่มีการป้องกันและเสริมคันสูงขึ้นจะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน น้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่โรงงานย่านรังสิต และเขตกรุงเทพฯ ซึ่งวันพรุ่งนี้ พลเอกประวิตร จะเน้นการติดตามการบริหารจัดการน้ำ ตามประตูระบายน้ำ


นอกจากปทุมธานี ที่นนทบุรี ก็ถือเป็นพื้นที่ประสบภัย ที่ต่อเนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะช่วงบริเวณเทศบาลนครปากเกร็ด พบว่าขณะนี้พื้นที่เขตเทศบาลและเขตเศรษฐกิจ ตลอดแนวของเทศบาลช่วง 10 กิโลเมตร ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยังไม่มีน้ำท่วมขัง


ทางเทศบาลได้นำกระสอบทรายมาเสริมคันกั้นน้ำตลอดระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการวางแนวไว้ล่วงหน้ามากกว่า 1 เดือนแล้ว


ขณะที่บางจุดก็มีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่เป็นในส่วนบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกันน้ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็บอกว่าคุ้นชิน กับช่วงฤดูน้ำหลากของทุกปี น้ำก็ท่วมแบบนี้เป็นปกติ


นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ระบุว่า จุดวัดระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเขตเทศบาลนครปากเกร็ด ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 2.06 เมตร ซึ่งระดับน้ำที่ทางเทศบาลเตรียมทำคันกระสอบทรายไว้รองรับได้ คือ 2.7 เมตร ขณะนี้ยังถือว่ารองรับได้อยู่ จุดที่น้ำดันท่อระบายน้ำเข้ามา ทางเทศบาลก็เร่งสูบน้ำออกได้ตลอด


วันนี้เป็นวันแรกของการเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพมหานคร หลังได้รับแจ้งว่าในช่วงวันที่ 5-13 ตุลาคมนี้ จะมีน้ำทะเลหนุนสูง และมีฝนตกหนักจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และการระบายน้ำจากลุ่มน้ำเหนือลงมา ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับจังหวัดกรุงเทพมหานครและนนทบุรีที่อยู่ช่วงปลายน้ำ


นายเจษฏา จันทร์ประภา รองผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานภาพรวมของสถานการณ์น้ำพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า วันที่ 7-10 ตุลาคมกรุงเทพมหานครมีแผนในการรองรับโดยมีการนำกระสอบทราย 2 ล้าน 5 แสนใบ อุดจุดที่ฟันหลอตลอดแนวและเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นในระดับ 2.8-3.5 เมตร โดย สำนักระบายน้ำได้เตรียมชุด ปฎิบัติการไว้รับมือกับคันกั้นน้ำที่อาจชำรุดจากแรงดันน้ำ


ขณะเดียวกันก็ได้พร่องน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำในคลองสายหลักโดยการผันน้ำไปยังคลองสายอื่นๆ เช่น คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ ซึ่งตัดกับคลองลาดพร้าว คลองบางเขน และ คลองเปรมประชากร รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีกกว่า 30 ตัวตามสถานีสูบน้ำ และประสานงานกับกรมชลประธานในการระบายน้ำในคลองหกวาสายล่าง คลองประเวศบุรีรมย์ออกยังแม่น้ำบางปะกงในจังหวัดเงฉะเชิงเทราให้เร็วที่สุด