สังคม

หลายพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาน้ำยังอ่วม - เชียงใหม่ เริ่มทรงตัว รอน้ำปิงลดระดับ

โดย panwilai_c

3 ต.ค. 2565

52 views

นอกจากผลกระทบจากฝนตกหนัก ใน กทม.แล้ว ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม ในภาคกลาง โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา และสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่



สถานการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดเริ่มทรงตัวต่อเนื่องหลายชั่วโมงแต่ยังต้องเฝ้าระวัง หลังมีรายงานน้ำเหนือจากแม่แตง และเชียงดาว จะลงมาอีกระลอก แม้ขณะนี้น้ำจะทรงตัว แต่แม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ตอนนี้ยังขยายวงกว้างออกไปเนื่องจากน้ำในลำน้ำยังสูง แม้ว่าเมื่อเวลา 19.00 น. จะทรงตัวอยู่ในระดับที่ 4 เมตร 65 เซนติเมตร ต่อเนื่องเป็นชั่วโมงที่ 5 แล้ว อาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะน้ำลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งก็ต้องรอให้แม่น้ำปิงลดระดับลงมาอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าจุดวิกฤติที่ 3 เมตร 70 เซนติเมตร จึงจะสามารถระบายน้ำกลับลงสู่แม่น้ำปิงได้



จากสถานการณ์น้ำภาคเหนือตอนบน มาที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ที่พิจิตร น้ำที่ไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลดงเจริญ เริ่มทรงตัว โดยจากภาพมุมสูงจะเห็นได้ว่า น้ำได้ท่วมขัง เต็มพื้นที่โรงพยาบาลแต่ยังไม่ท่วมเข้าไปถึงภายในอาคารที่มีการถมดินให้สูงจากพื้นดินปกติ แต่ก็สร้างความยากลำบากให้ประชาชนและแพทย์ ทำให้โรงพยาบาลดงเจริญ ต้องนำเต้นท์มากาง บริเวณริมถนนสายดงเจริญ-บางมูลนาก เพื่อตรวจรักษาเบื้องต้นให้กับประชาชน



โดยหากต้องการใช้เครื่องมือพิเศษ หรือรับการแจกจ่ายยา ก็จะมีรถไถลากพ่วง ไว้บริการประชาชน ให้เดินทางเข้าไปในโรงพยาบาล ในขณะที่ผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน ได้ถูกย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลบางมูลนาก



ส่วนที่พระนครศรีอยุธยา น้ำได้ล้นทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านวังแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่เป็นชุมชนหนาแน่น รวมกันอยู่กว่า 200 หลังคาเรือน



นอกจากนี้ น้ำจากเจ้าพระยา ยังล้นตลิ่งเกาะเมืองฝั่งทิศตะวันตกด้านเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตรงข้ามกับวัดกษัตราธิราชวรวิหาร สำนักงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้ระดมรถบรรทุกดินเข้ามาเทใช้รถแบคโฮเข้ามาปั้นเป็นคันกั้นน้ำสูงเกือบ 2 เมตรเป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร ไปเชื่อมต่อกับแนวบังเกอร์พนังกั้นน้ำที่สร้างเสร็จแล้วเพื่อป้องกันน้ำเจ้าพระยาทะลักล้นเข้ามาท่วมเกาะเมืองอยุธยา



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัย ประจำวันนี้ เป็นผลกระทบจากพายุโนรู ที่เข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน- 3 ตุลาคม มี 25 จังหวัดได้รับผลกระทบ ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,348 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ปัจจุบันยังคงมี16 จังหวัด ที่ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

คุณอาจสนใจ

Related News