กทม.เร่งสอบที่มาคนทิ้งน้ำมันเครื่องคลองบางพรหม หวั่นมีกลุ่มเบื้องหลังตัดตอน

หลังจากข่าว 3 มิตินำเสนอข่าว ที่มีผู้ร้องเรียนว่าพบการลักลอบทิ้งขยะเคมีของเหลวที่เป็นน้ำมันเครื่องเก่า ริมคลองน้ำในเขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ไป ตรวจสอบคนกลุ่มนี้ให้การว่ามาตกปลาริมคลอง แต่หลังจากภาพข่าวถูกเผยแพร่ไป ก็มารับสารภาพว่าเป็นผู้ลักลอบทิ้งนำมันเครื่องจริง และยอมให้ปรับ 5 พันบาท



ล่าสุด ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ยืนยันว่าจะต้องตรวสอบว่าผู้มาเสียหายค่าปรับ เป็นเจ้าของตัวเจริง หรือเพียงแต่ ตัดตอนเพื่อไม่ให้สาวถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำขยะของเหลว ไปกำจัดแล้ว



เจ้าหน้าที่ทีมตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตราย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพฯ ใช้สารลดแรงตึงผิว หรือ Surfactant ฉีดเข้าใส่คราบน้ำมันเครื่องเก่า ที่ถูกลักลอบ ทิ้งริมคลองซอย หรือคลองท่อ ซึ่งเป็นคลองสาขาของคลองบางพรหม เขตทวีวัฒนา โดยสารลดแรงตึงผิว กลุ่มเดียวกับที่ใช้ในการทำความสะอาดภาชนะเครื่องครัว น้ำยาล้างจ้าง เพื่อสลายการจับตัวของน้ำมัน



หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ใช้ขี้เลื่อยโปรยทับขยะของเหลวและซากขยะอื่นๆ เพื่อซึมซับของเหลวให้อิ่มตัว แล้วใช้เครื่องจักรตักขยะขึ้นรถเพื่อนำออกไปกำจัด โดยแยกระหว่างรถขยะทั่วไป กับรถขนขยะเคมีของเหลวเป็นรถคนละคัน แต่ทั้งหมดจะนำออกไปกำจัดที่โรงกำจัดขยะหนองแขม ของกรุงเทพมหานคร



ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ถูกลักลอบทิ้งขยะ พร้อมโฆษกกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตทวีวัฒนา ระบุว่านอกจากเจ้าหน้าที่ได้กำจัด ขยะดังกล่าวแล้ว ได้ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางการผันน้ำและตรวจสอบน้ำในคลองท่อหรือคลองซอย ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมต่อระหว่าง คลองขุนศรี บริรักษ์ กับคลองบางพรหม เขตทวีวัฒนา เพื่อตรวจสอบผลกระทบ



นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ตรวสอบให้แน่ชัดว่ากลุ่มคนที่มาเสียค่าปรับตาม พรบ.รักษาความสะอาด เป็นเงิน 5 พันบาท และยอมสารภาพว่าเป็นผู้ทิ้งน้ำมันเครื่องเก่าเหล่านี้ จะเป็นเจ้าของที่แท้จริง หรือรับจ้างใครมา หรือแม้แต่เป็นการตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงเจ้าของที่แท้จริงหรือไม่



วันนี้ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบโรงงาน จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม มาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพราะมีประเด็นจากผู้ร้องเรียนว่าน้ำมันเครื่องเก่าดังกล่าว อาจถูกลักลอบขนย้ายออกจากโรงงานอุตสาหกรรมย่านเทศบาลนครอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร หรืออาจจะเป็นตำบลอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม ซึ่งหากเป็นน้ำมันเครื่อง ออกจากโรงงานจริง โรงงานนั้นจะมีความผิดตาม พรบ.โรงงานอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งประเด็นนี้ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กำชับให้ตรวจสอบ จนกว่าจะได้ข้อเท็จจริง