สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 15 ก.ย.65 ศาล รธน.นัดชี้ชะตาบิ๊กตู่ - จ่าสิบเอกคลั่งกราดยิงดับ 2 - กระทิงปัดเกี่ยวข้องฟอเร็กซ์

โดย thichaphat_d

15 ก.ย. 2565

63 views

-ดีเจแมนและใบเตย ย่องพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ปากคำ 5 ชั่วโมง ดีเจแมน เผยมาก่อนกำหนด เพราะได้รวบรวมหลักฐานพอสมควร แต่มีประเด็นละเอียดอ่อนที่เพิ่งทราบหลายเรื่อง จึงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ก็สบายใจ ยืนยันตัวเองกับใบเตยไม่หนีแน่นอน

-กระทิง ขุนณรงค์ ส่งหนังสือขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงยุติธรรม ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Forex 3D และพร้อมเปิดใจใน โหนกระแส ร่วมกับบอล กัมมัญญ์ วันนี้ ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ย้ำยังไม่มีรายชื่อ กระทิงเป็นผู้ต้องหา ไม่เคยถูกเรียกเป็นพยานในคดี เตือนคนนำชื่อดาราโพสต์โซเชียล หากตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง มีสิทธิ์โดนคดีเอง

-จ่าสิบเอกคลั่งกราดยิงเพื่อนร่วมงานตาย 2 เจ็บ 1 ภายในวิทยาลัยกองทัพบก สารวัตรฯ เจรจาครึ่งชั่วโมง จนยอมลดอาวุธ ลูกชายมือยิงหอบประวัติรักษาอาการป่วยจิตเวชชี้แจงตำรวจ ด้านผู้บังคับบัญชา เผย ขาดยาทำให้อาการป่วยทางจิตกำเริบ บิ๊กป้อม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย ก่อนย้อนกลับนักข่าว “จะให้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยยังไง”

-เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เร่งล่างูเหลือมฉกเจ้าหน้าที่ในตึกกรมป่าไม้ บาดเจ็บแล้ว 2 คน เชื่องูอาจมารอกินแมว แต่เจอคนเดินผ่านเลยฉก ยันไม่ใช่งูเหลือมหลุดกรง หรือตัวที่กรมจับมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่เป็นงูหนีน้ำท่วมมาซ่อนใต้ถุนอาคาร

-แป้ง อรจิรา โพสต์ไอจีชี้แจง ดรามาตักอาหารตกใส่คนอื่น ยอมรับพูดคำว่าไม่มีมารยาท พร้อมขอโทษในส่วนนี้ และจะระมัดระวังการกระทำของตัวเองให้มากขึ้นในอนาคต ด้านคู่กรณีไลฟ์ให้อภัยหมดใจ หลังแป้ง ออกมาขอโทษ  


เรื่องเล่าการเมือง

-ความคืบหน้าเรื่องวาระ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวานนี้ ชัดเจนแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยชี้ชะตา พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่

การประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ ศาลได้พิจารณาเอกสารหลักฐานเป็นครั้งที่ 2 หลังมีการเรียกบันทึกการประชุม ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2561 มาพิจารณา ร่วมกับความเห็นของ อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

เพื่อจะนำไปสู่การวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีดำรงตำแหน่งมาแล้ว 8 ปี ตั้งแต่ปี 2557

โดยภายหลังใช้เวลาประชุมราว 2 ชั่วโมง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ศาลได้ พิจารณา พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงคดีด้วยวาจา / ปรึกษาหารือ / ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันศุกร์ ที่ 30 ก.ย. นี้ เวลา 15.00 น.

ส่วนท่าทีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวานนี้ ยังคงเดินทางมานั่งทำงาน ที่กระทรวงกลาโหม ตามปกติ โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี ในฐานะโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และยืนยันว่าจะให้ความเคารพต่อผลการพิจารณาของศาลฯ ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นเช่นใด พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่มอบให้ ยืนยันว่าขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่



-เมื่อวานทั้ง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร และ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ ได้ลงพื้นที่น้ำท่วม กทม. โดยแยกกันไปคนละจุด คนละเวลา แต่ทั้ง 2 ภารกิจ มีผู้ว่าฯชัชชาติไปต้อนรับและและรายงานสถานการณ์ ลบเสียงครหาว่าน้ำท่วม กทม.เพราะเรื่องการเมืองหรือไม่

ช่วงเช้าเป็นการลงพื้นที่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย โดยไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร บริเวณสะพานคลองทับยาว เขตลาดกระบัง ทันทีที่เดินทางมาถึง นายชัชชาติ ได้ไปต้อนรับที่รถ พร้อมกับระบุว่า "ลาดกระบังหนักสุดครับ ฝนตกลงมาเยอะมากครับท่าน 2 เท่าของค่าเฉลี่ย" จากนั้น พลเอกอนุพงษ์ ตอบกลับไปว่า "ท่านผู้ว่าฯจะเอาอะไรบอกผมได้เลย" จากนั้นทั้งคู่ได้พากันไปดูแผนที่ระบายน้ำบริเวณใต้สะพาน ก่อนที่จะแถลงข่าวร่วมกัน

โดย พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ กทม.ตามที่มีการร้องขอทุกอย่าง ยืนยันว่าที่ผ่านมามีการประสานความร่วมมือกันตลอด

ทั้งนี้ตลอดการแถลงของ พล.อ.อนุพงษ์ มีการกล่าวชื่นชมผู้ว่าฯชัชชาติตลอดเวลา ขณะที่ผู้ว่าชัชชาติ ได้กล่าวขอบคุณ และย้ำเรื่องการทำงานว่าเป็นทีมเดียวกัน ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้ยืนยันว่าปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ไม่ใช่เพราะการเมือง

ส่วนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วงบ่าย จุดแรกเดินทางมายังประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ เขตมีนบุรี โดยมีนายชัชชาติ มารอต้อนรับ และรายงานสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำออกจากพื้นที่ กทม. โดยบอกว่าการระบายน้ำฝั่งตะวันออกทำได้ลำบาก เพราะไม่มีทางไป และกล่าวถึงแผนการระบายน้ำที่ต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงเขตพื้นที่ที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่เป็นไรเพราะเป็นประเทศเดียวกัน และย้ำให้เร่งดำเนินการ ทั้งนี้ พล.อ ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม ว่า ได้ผู้ว่า กทม.ที่เข้มแข็ง

จากนั้น พลเอกประวิตร เดินทางต่อไปบริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำหนองจอก และมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่วัดวิบูลย์ธรรมาราม ซึ่งมีชาวบ้านรุมขอถ่ายรูปด้วย

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้เร่งปัญหา ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันเร่งทำงาน ขณะที่นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีพรรคพวก มีแต่เพื่อประชาชน



-ความคืบหน้าการพิจารณาร่างกฎหมาย กัญชาและกัญชง ที่ผ่านการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้ว เมื่อวานนี้ มีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 แต่สุดท้ายต้องสะดุดโดนตีกลับให้ไปทบทวนใหม่

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ มีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ การปลูก การจำหน่ายกัญชา แต่ปรากฎว่าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคฝ่ายค้าน กลับอภิปรายไม่เห็นด้วย เพราะพบเนื้อหาที่ยังไม่ชัดเจนในการควบคุม จนมีการเสนอญัตติให้กรรมาธิการถอน กลับไปทบทวนใหม่

ในที่สุดที่ประชุม มีมติ ด้วยคะแนน 198 ต่อ136 ให้กรรมาธิการถอนร่างดังกล่าวกลับไป

โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง ให้เหตุผลที่ไม่สามารถให้ผ่านไปได้ เป็นเพราะ ร่างกฎหมายยังมีความหละหลวม แทนที่จะกำหนดให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ กลับมาส่งเสริม อนุญาตให้คนทั่วไปจดแจ้งปลูกกัญชากันได้ง่าย ทำให้สร้างผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว

พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติ ขอให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ทบทวนการปลดล็อกกัญชา ให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม โดยให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น

เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง บอกว่าร่างกฎหมายที่ออกมา นอกจากจะไม่ควบคุมแล้วยังเป็นการส่งเสริมเรื่องสันทนาการด้วย เพราะ ไม่มีมาตราใดบอกว่าการเสพกัญชานั้นผิดกฎหมาย แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีการควบคุม

ขณะที่ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรค สวนกลับ พรรคประชาธิปัตย์ทันทีว่า ร่างกฎหมายนี้ พรรคประชาธิปัตย์เองรับหลักการเข้ามาตั้งแต่ต้น

และย้ำว่า เวลานี้จำเป็นต้องมีกฎหมายควบคุมกัญชา เพราะกัญชา ได้ถูกปลดล็อคจากกฎหมายยาเสพติด แล้ว ไม่ควรปล่อยให้เกิดสุญญากาศ ตามที่กังวลกัน

เช่นเดียวกับ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกรรมาธิการ ที่พิจารณาร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ย้อนกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย ด้วยว่าควรกลับไปสำรวจพรรคตัวเองว่ามี ส.ส.ในพรรค กี่คนที่ลงทุนทำธุรกิจกัญชา กัญชง อยู่ในเวลานี้



-ร่าง พ.ร.บ.เงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้การกู้เงิน กยศ.ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ และให้มีผลย้อนหลังด้วย

ที่ประชุมเริ่มด้วยการลงมติในมาตรา 17 เรื่องการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ตกค้างมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากที่ให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา 0.25%

แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่า จะไม่ให้มีการคิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับล่าช้า ตามที่นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขมา หรือจะคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับล่าช้าในอัตราอื่นๆที่แตกต่างจากกรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอมา ตามที่มีผู้เสนอมา 3 แนวทางคือ

1. ให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ1 ต่อปี

2. ให้คิดดอกเบี้ย 2% และเบี้ยปรับล่าช้า1%

และ 3. เสนอให้คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ1ต่อปี แต่ให้เริ่มชำระเมื่อผู้กู้ยืมมีเงินได้พึงประเมินเพียงพอจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในระยะเวลา 30 ปี

สุดท้ายที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับร่างของนายอุบลศักดิ์ที่ไม่ให้คิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับล่าช้าเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาด้วยคะแนน 218 ต่อ109 งดออกเสียง 53 ไม่ลงคะแนน 1

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบบทเฉพาะกาล ให้มีผลย้อนหลังกับผู้กู้ยืมและคนค้ำประกันที่ได้ทำสัญญากู้ยืมก่อนหน้าที่ร่างกฎหมายจะบังคับใช้ โดยให้งดเว้นการเก็บดอกเบี้ย และคิดค่าปรับผิดนัดชำระ

จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบวาระสามด้วยเสียงข้างมาก 314 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 งดออกเสียง 2 ไม่ลงมติ 2 ขั้นตอนต่อไปก็จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณา

ทั้งนี้ก่อนการพิจารณาของสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าพรรคมีความวิตกว่าหากถือเอาความถูกใจอย่างเดียว แล้วยกเลิกดอกเบี้ย กยศ. ก็จะทำให้กองทุน กยศ.ไม่เป็นกองทุนหมุนเวียน และจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะจะกระทบถึงภาระงบประมาณของรัฐ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/vXyDzlnQ9-k

คุณอาจสนใจ

Related News