จับคนดูแลผู้ป่วยเสียชีวิตขโมยเงินคนตาย

วันนี้เมื่อเวลา 10.00 น.พลตำรวจโท อัครเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงผลการจับกุม นางสาวสิตางค์  ผู้ต้องหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน

หลังจากนายปฏิวัติ  ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินดคีนางสาวสิตางค์ ว่าได้ลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของบิดาที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ใช้เข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชั่น โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิต เข้าถึงบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาไปโดยทุจริต รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15,790,000 บาท โดนเงินดังกล่าวนั้นเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของผู้เสียชีวิต ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความน่าสนใจ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดและติดตามทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็ว

ต่อมาวันที่ 1 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จึงได้ยื่นขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก และเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง เป็นเงินสดจำนวน 2,329,000 บาท ทองคำแท่ง 10 บาท จำนวน 1 แท่ง มูลค่า 299,500 บาท รถยนต์ของผู้เสียชีวิต โทรศัพท์ 6 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 6 เล่ม สำเนาเอกสารและทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนหลายรายการ และในวันที่ 2 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนขยายผล จนรู้ที่ซ่อนของเงินส่วนที่เหลือและสามารถติดตาม เงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บยางอะไหล่หลังรถยนต์เก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่ในบ้าน ย่านถนนประชาอุทิศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก