ปส.ไล่ล่าเดือด ยิงสกัดจับแก๊งยาเสพติดที่เชียงใหม่ หลังติดตามนาน 2 สัปดาห์

ผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติด ฝ่าด่านตรวจของตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่วางแผนติดตามมานานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ตำรวจที่ขับรถไล่ติดตามต้องยิงยางรถยนต์ เพื่อสกัด กระทั่งจับได้พร้อมยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด และจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองพบว่ามีประวัติค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับฉายาเจ้าแม่ลำพูน



แยกไฟแดงร้านคาราโอเกะเลียบคลองชลประทาน ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย เป็นหนึ่งในจุดเฝ้ารอ ของตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในภารกิจสกัดจับขบวนการค้ายา เป้าหมายคือรถสองคัน เป็นกระบะที่สีขาว 1 คัน และเก๋งฮอนด้าซีวิคสีดำที่เพิ่งแซงไปอีก 1 คัน ก่อนที่รถมีตำรวจอีกชุดจอดรถขวางไว้



แม้จะยิงยางรถยนต์ แต่ก็ยังสกัดรถเก๋งคันนี้ไว้ไม่ได้ รถยังคงวิ่งออกจากจุดที่ถูกสกัดไปตามถนนที่มุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ระหว่างทางก็ทิ้งกระสอบยาบ้า ออกจากประตูฝั่ง ผู้โดยสารด้านซ้าย เพื่อทิ้งหลักฐาน



ไม่นานหลังจากไล่ติดตาม จนรถไปจอดที่ริมถนน ต.หนองหาน อ.สันทราย คนในรถทั้งสองก็ยอมจอดสนิท เพราะไปต่อไม่ได้ ก่อนจะมอบตัวและยอมให้ตรวจค้นภายในรถ



จำนวนยาบ้าที่ยึดได้มี 2 แสนเม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ส่วนคนในรถเป็นชายชื่อพัฒน์พงศ์ วัย 40 ปีคนขับ และหญิงวัย 32 ปีชื่ออรวรรณ ทั้งสองเป็นชาวจังหวัดลำพูน



ตำรวจปส.อีกชุด ไล่ติดตามรถกระบะสีขาว จนสกัดจับได้ที่ริมถนนโชตนา ต.สันมหาพน อ.แม่แตง เชียงใหม่ พบคนขับเป็นชายชื่อนายป่าสอ วัย 27 ปี และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง



ตำรวจระบุว่านายป่าสอ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ส่งให้เครือข่าย โดยเฉพาะชายหญิงดังกล่าว ที่ได้รับฉายาว่าเจ้าแม่ลำพูน และตอนนี้ทั้ง 3 ถูกดำเนินคดีครอบครองยาบ้าและจำหน่าย และเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน



ข้อมูลจากฝ่ายป้องกันและปรบปราม สำนักงานปปส.เปรียบเทียบเดือนกรกฏาคม กับสิงหาคม พบว่าเดือนกรกฎาคม จับคดียาเสพติดได้ 40 คน ผู้ต้องหา 44 ยาบ้า 43 ล้านเม็ด ไอซ์ 1056 กิโลกรัม เฮโรอีน เคตามีจำนวนหนึ่ง เครือข่ายส่วนใหญ่ อยู่ในภาคเหนือ



ส่วนเดือนสิงหาคม จับได้ 31 คดี ผู้ต้องหา 48 คน ยาบ้า 26 ล้านบเม้ด ไอซ์ 729 กิโลกรัม เครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับมากสุด ก็คือเครือข่ายภาคเหนือ เจ้าหน้าที่ระบุว่าตัวเลขที่แตกต่างกัน 2 เดือน ไม่ได้นัยยะสำคัญที่จะบ่งชี้ว่ายาเสพติดลดลง



ขณะที่ยึดอายัดทรัพย์สินจากยาเสพติด ตั้งแต่ 1 ตุลาคมปีที่แลว้ ถึง 28สิงหาคมที่ผ่านมา รวม10413.17 ล้านบาท แยกเป็นยึดตามคำสั่ง ยึดตามการตกเป็นของกองทุน ปปส.และตามกฎหมายอืน่ 6454.97 ล้านบาท ทรัพย์สินอยู่ระหว่างคำนวณเสนอริบ 2800 ล้านบาท และยึดตามภารกิจ พาลีปราบยา ที่รอ เลขาธิการปปส.มีคำสั่งอีก 1158 ล้านบาท