สังคม

เหยื่อร้องดีเอสไอเชียงใหม่ ถูกหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่คริปโทฯ เสียหายกว่าพันล้านบาท

โดย panisa_p

24 ส.ค. 2565

143 views

เหยื่อแชร์ลูกโซ่คริปโทเคอเรนซี่ ทยอยเข้าร้อง DSI ภาค 5 เชียงใหม่ หลังถูกบริษัทแห่งหนึ่งที่มีเจ้าของโปรไฟล์ดี อยู่บ้านสุดหรู ขับรถซูเปอร์คาร์หลายคัน แถมออกงานช่วยเหลือสังคมทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนคนมีชื่อเสียงจนน่าเชื่อถือ หลอกให้ลงทุนเปิดเหมืองขุดเหรียญคริปโทฯ ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงแรก หลังจากนั้นเริ่มเบี้ยว คาดมีผู้เสียหายมากกว่า 1,800 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,700 ล้านบาท


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (24ส.ค.65) ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้เสียหายเบื้องต้นประมาณ 20 ราย นำข้อมูลหลักฐานเข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จากการถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่อ้างว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายเหรียญอิเล็กทรอนิกส์หรือ cryptocurrency และทำเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งแต่ละรายได้รับความเสียหายตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาทขึ้นไป


ตลอดจนมีอีกหลายรายที่ได้รับความเสียหายหลักล้านบาท และเตรียมจะเข้าร้องกับเจ้าหน้าที่ต่อไป โดยมีการประเมินว่าจำนวนผู้เสียหายทั้งรายเล็กและรายใหญ่น่าจะมีรวมกันหลายพันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องเอาไว้และเปิดให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ นำหลักฐานเข้าร้องเพิ่มเติมได้ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูล เพื่อพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์ ในการรับดำเนินการเป็นคดีพิเศษหรือไม่


ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้ร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดให้ร่วมลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 30,000 บาทเป็นต้นไปจนถึงหลักหลายล้านบาท ได้รับผลตอบแทนปันผลเป็นกำไรตามสัญญา 10 - 15% ตามมูลค่าการลงทุน โดยในส่วนของตัวเองเริ่มลงทุนไป 100,000 บาท เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 และในช่วง 2 เดือนแรกยังได้รับเงินปันผล จนกระทั่งล่าสุดทางบริษัท ไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้ตามสัญญา


พบว่ามีผู้ลงทุนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อสอบถามไปทางบริษัทก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอด จึงเชื่อว่าบริษัทนี้น่าจะเป็นลักษณะการหลอกให้ร่วมลงทุนเหมือนแชร์ลูกโซ่ และผู้เสียหายได้รวมกลุ่มกันเพื่อร้องขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการประเมิน เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศรวมแล้วหลายพันคน และมีมูลค่าความเสียหายหลักพันล้านบาท


รายงานข่าวแจ้งว่าในส่วนของบริษัทดังกล่าวนั้น จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดเมื่อปี 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 บาท ระบุวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียน ว่าประกอบกิจการรับจ้าง ออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ รับจดทะเบียนชื่อโดเมน


ต่อมาในปี 2565 เพิ่งจดทะเบียนเป็นบริษัท ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 500,000 บาท ระบุวัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนว่าประกอบกิจการรับจ้าง ออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ รับจดทะเบียนชื่อโดเมน บริการเช่าพื้นที่บนคอมพิวเตอร์


อย่างไรก็ตามเจ้าของผู้ก่อตั้งบริษัทที่ชักชวนคนให้ร่วมลงทุนมักจะอ้างว่าทำลงทุนเงินอิเล็กทรอนิกส์และใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทำเหมืองขุดเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่ พร้อมมีการโพสต์เรื่องราวและภาพการใช้ชีวิตหรูหราทั้งรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์,ผลกำไรจากการลงทุน และการทำธุรกิจ ซึ่งได้มีการเปิดให้ผู้อื่นร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2563


จนกระทั่งช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ เริ่มเกิดปัญหาในการ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงทุน และนำมาสู่การรวมตัวกันของกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยในส่วนของผู้ก่อตั้งบริษัทยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดียว่าไม่ได้หลบหนีและกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อนำเงินมาให้ผู้ลงทุน

คุณอาจสนใจ