สาวร้องโดนลูกชายดีเจชื่อดังซ้อมปางตายนาน 2 ปี

ช่วงบ่ายวันนี้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ เพจ สายไหมต้องรอด นางสาวธัญญ์สมินธิ์ หรือ เบลล์  ไฮโซสาว เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือ หลังถูกอดีตสามี นายชวิศลูกชายคนเล็กของดีเจชื่อดัง  ทำร้ายร่างกายโดยการซ้อมตบตี นานกว่า 2 ปี



โดยนางสาวธัญญ์สมินธิ์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ส่วนตัวคบหาเป็นสามีภรรยากับ นายชวิศ  ลูกชาย ดีเจชื่อดัง ได้เป็นเวลา 2 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบหาเป็นสามีภรรยากัน ถูกนายชวิศ ทำร้ายร่างกายทุบตีบ่อยครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงที่เริ่มคบกันตั้งแต่ 6 เดือนแรก ตนเองก็เริ่มโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนั้นก็ตัดสินใจเลิกลากัน แต่พอแยกกัน ตนเองมารู้ตัวว่าท้องกับนายชวิศ จึงให้โอกาสให้นายชวิศได้แสดงความเป็นพ่อกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่นายชวิศก็ยังทำร้ายร่างกายตนเองเหมือนเดิม แม้ตอนที่ตนเองยังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ อุ้มท้องลูกของนายชวิศเองก็ตาม ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ซ้ำช่วงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ นายชวิศก็ยังไปออกรายการ เกมส์โชว์ ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับการหาคู่ของคนโสด ซึ่งทำให้ตนเองเสียใจอย่างมาก และเมื่อมีการพูดถึงก็จะโดนทำร้ายร่างกายเสมอ



ตนเองเคยเข้าแจ้งความกับตำรวจ ทั้ง สน.โคกคราม สน.ทุ่งมหาเมฆ และล่าสุดที่ สภ.ปากเกร็ด หลังจากที่นายชวิศ บุกมาที่บ้านตนเอง และพยายามพังประตูเพื่อจะเข้ามาในบ้าน โดยมีพ่อและแม่ของตัวนายชวิศเดินทางร่วมมาด้วย แต่ก็ไม่สามารถห้ามอะไรได้



ผู้เสียหายสายยังระบุอีกว่า ในหลายๆครั้งที่มีการทุบตีตนเอง พ่อและแม่ของฝ่ายชายก็อยู่และรู้เห็นด้วยเสมอ แต่ก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรตนเองได้แม้แต่ครั้งเดียว



ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายร่างกายตนเอง จากที่เคยสังเกตุ และตัวอดีตสามีเคยรับสารภาพก็คือปัญหาเกี่ยวกัยการใช้สารเสพติด เพราะตนเองเคยเจอที่จมูกฝ่ายชายมีผงสีขาวเกาะอยู่และตัวฝ่ายชายก็มักมีอาการ พูดคนเดียว ตาขวาง หงุดหงิดในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรืออยู่ๆไม่พอใจก็ใช้ความรุนแรงขึ้นมาเลย ซ้ำยังเคยขู่จะฆ่าตนเองและครอบครัว รวมถึงลูกสาวของคนเองที่เคยมีกับครอบครัวเก่าก็ ถูกนายชวิศข่มขู่เวลาที่คลุ้มคลั่งหลายๆครั้ง ก่อนที่ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้นายชวิศได้บุกมาคลุ้มคลั่งอีกครั้ง หลังจากที่แยกบ้านกันอยู่มาได้ระยะหนึ่ง โดยอ้างสาเหตุว่าตนเองไม่ให้เข้าไปพบลูก ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง



ในครั้งนี้จึงตัดสินใจลุกขึ้นสู้และขอเดินหน้าเอาผิดกับนายชวิศ เพราะคิดว่าครอบครัวของอดีตสามีไม่สามารถดำเนินการได้เอง และยังมีการเข้าข้างลูกชายเสมอมา จึงตัดสินใจเดินทางเข้าขอคสามช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอดเพื่อขอให้ช่วยเหลือ



โดยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า จากการได้ดูหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายนำมาร้องขอความช่วยเหลือพบว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุมีความรุนแรง และคนรอบตัวไม่สามารถควบคุมได้ และจากการพูดคุยยังพบว่ามีการขู่จะใช้ความรุนแรงถึงขั้นฆ่ากัน ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวอย่างมาก ในวันพรุ่งนี้ตนเอง จะนำเรื่องขอให้ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ ด้านการคุ้มครอง และการดูแลผู้เสียหายจากการคุกคามของทางอดีตสามี ส่วนเรื่องคดีความก็จะติดตามการดำเนินคดีของตามแต่ละ ท้องที่อีกครั้ง



ส่วนตัวเชื่อว่าจากการที่ได้รับฟังผู้เสียหายมาทั้งหมด รวมถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ตนเองเชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหายาเสพติด เพราะคนปกติไม่น่าจะใช้ความรุนแรงอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้มาตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันมา ซึ่งต้องแยกกันดำเนินการ เพราะการทำร้ายร่างกายต้องดำเนินการทางคดีอาญา แม้จะเป็นเรื่องความรุนแรงทางครอบครัว ก็ตาม ส่วนเรื่องของการใช้สารเสพติดต้องพิสูจน์อีกครั้งหากพบว่าเป็นเรื่องจริงก็ต้องส่งบำบัดรักษาไปตามขั้นตอน