สังคม

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา “เมธี” อดีตนักแสดง-แนวร่วมนปช. คดีครอบครองปืน

โดย paranee_s

15 ส.ค. 2565

691 views

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม 65 ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีครอบครองอาวุธปืน หมายเลขดำ อ.1395/63 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต อำนาจเดชานนท์ อายุ 51 ปี อดีตนักแสดงชื่อดัง และอดีตแนวร่วม นปช. เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ


ทั้งนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารบก สังกัดกองทัพบก ผู้เสียหายได้เข้าขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บริเวณแขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้นำอาวุธปืนเล็กกล ยี่ห้อทราโว่ ขนาด 223 (5.56 มม.) พร้อมซองกระสุนปืน ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ อีกรวม 11 รายการของผู้เสียหาย ที่นำติดตัวไปใช้ในราชการด้วย


ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารบกเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. แล้วมีกลุ่มคนร้ายจำนวนหลายคนได้ร่วมกันเอาทรัพย์ไปในเวลากลางคืน ได้แก่ อาวุธปืนเล็กกล ยี่ห้อทราโว่ จำนวน 13 กระบอก ซองกระสุนปืน 50 ซอง ตลอดจนทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งอาวุธปืนเล็กกล ขนาด 223 (5.56 มม.) ยี่ห้อทราโว่ จำนวน 1กระบอก พร้อมซองกระสุนจำนวน 5 ซอง ราคารวม 69,313บาท ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต


ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. 2553 เวลาประมาณ 05.45 น. ภายหลังร่วมกันชิงอาวุธแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ พร้อมทรัพย์สินบางส่วนของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายร่วมกัน ซึ่งเอาทรัพย์ไปในเวลากลางคืนได้จากจำเลย พร้อมกระสุน จำนวน 92 นัด อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ (SMITH & WESSON) ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกของผู้อื่น พร้อมกระสุนปืน 41 นัด ที่ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ที่จำเลยกับพวกขับมา เจ้าพนักงานตำรวจจึงยึดทรัพย์ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี อันเป็นอาวุธซึ่งมีกลไกการยิงแบบปืนกล (FULL-AUTOMATIC) หรือยิงเป็นชุด ซึ่งถือเป็นอาวุธปืนที่มีชนิดและขนาดนอกจากที่กำหนด


ซึ่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ออกตามความในพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปื พ.ศ.2490 มาตรา 56 ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้


โดยจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวออกไป


จากการที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์มีประจักษ์พยานเป็น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ และเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจำเลยได้พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่อยู่ภายในรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ซึ่งจำเลยเป็นคนขับกลับมาที่คอนโดมิเนียมย่านคลองสาน จึงเชื่อว่าเจ้าพนักงานตำรวจเบิกความไปตามจริง โดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน


ส่วนที่จำเลยอ้างว่ารถกระบะดังกล่าวยืมมาจากคนรู้จักประมาณ 1 เดือนก่อนวันเกิดเหตุ เพื่อนำมาขนอาหารสัตว์ โดยไม่ทราบว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอยู่ภายในรถ และอาจจะเป็นอาวุธปืนของบุคคลอื่นนั้นฟังไม่ขึ้น


ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พ.ศ.2490 มาตรา 78 จำคุก 3 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี และให้ริบกระสุนปืนของกลาง


ภายหลังฟังคำพิพากษานายเมธี จำเลยได้ให้ทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาท เพื่อประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี


นายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต กล่าวก่อนขึ้นฟังคำพิพากษาว่า ที่มาฟังผลคำตัดสินในคดีอาวุธสงครามวันนี้ ตนไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย เพราะตนก็จะเอาปืนมาจากไหน ตนเป็นดารานักแสดง ซึ่งวิธีการนี้ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่คนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์มักจะโดน ซึ่งศาลก็มีการยกฟ้องไปหลายคดีในเรื่องอาวุธปืนสงคราม


อย่างคดีของลูกน้องเสธแดงก็ยกฟ้องไปแล้วประมาณ 4 คดี และล่าสุดคดีของ พลโทมนัส ก็เพิ่งจะยกฟ้องไป ตนก็หวังว่าความยุติธรรมจะคืนมาให้กับตน เพราะตนถูกฟ้องคดีเยอะ โดนทั้งฝ่ายเสื้อแดงในปี 53 มาบอกว่าตนเอาคดีไปแลกทรยศ มีแกนนำออกมาว่าตน ไม่มีหรอกครับที่จะเอาคดีไปแลก ตนโดน 13 คดีเต็มๆ ประกันตัวตั้ง 2 ล้านบาท แต่ไม่เป็นไร ฝั่งผู้มีอำนาจเองก็ยัดคดีมาให้ตนอีก ตนจะทำอะไรได้ ก็ได้แต่รับอย่างเดียว หวังว่าศาลจะเมตตากรุณาว่าอะไรคือข้อเท็จจริง


อย่างที่ตนเรียนให้ทราบว่า ตนเป็นนักแสดงเป็นประชาชนคนหนึ่งจะนำปืนมาจากไหน ปืนที่เป็นอาวุธสงครามจะเอามาได้ยังไง ตนต้องไปปล้นที่ไหนมา แต่ไม่เป็นไรเพราะเป็นเรื่องของระบบการกล่าวหา ตนก็ต้องสู้กันเรื่องข้อเท็จจริง


เมื่อถามการเตรียมเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัว ตนประกันตัวไป 250,000 บาทแล้วเมื่อครั้งตอนโดนจับ หากสมมุติว่าศาลมีคำสั่งลงโทษ ตนอาจจะใช้หลักทรัพย์เดิม แต่อาจจะเพิ่มหลักทรัพย์ขึ้น ส่วนเมื่อคืนตนก็นอนหลับดี

คุณอาจสนใจ

Related News