'ธีรรัตน์' ซักฟอกปมแจกกล้วย-เลี้ยงงูเห่า 'คารม' ลุกโต้ทันควัน 'ปธ.ชวน' ต้องปิดไมค์

วานนี้ (21 ก.ค. 65) ที่รัฐสภา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยนางสาวธีรรัตน์ ระบุว่า จากที่ประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่พัฒนาประชาธิปไตยอย่างมั่นคงและยั่งยืน ประชาชนเคยมีความหวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะนำพาโอกาสและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาสู่ประเทศ พลเอกประยุทธ์ กลายเป็นผู้นำที่พาประเทศสู่วิกฤติประชาธิปไตย ประชาชนเห็นตรงกันว่า พลเอกประยุทธ์เป็นปรปักษ์ต่อประชาธิปไตยในประเทศ

นางสาวธีรรัตน์ ระบุอีกว่า ถ้าหัวใจหลักของระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา คือหลักการที่ว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ รัฐบาลที่ถูกต้องและชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย จึงควรต้องเป็นรัฐบาลที่มีองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ ต้องมาจากการเลือกตั้ง / ใช้อำนาจของฝ่ายบริหารโดยเคารพอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ / และต้องใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน แต่ตลอด 8 ปีประชาธิปไตยตกอยู่ในน้ำมือของพลเอกประยุทธ์ ที่ทั้งกดขี่ ข่มเหงประชาชน

โดยเมื่อปี 2557 คือจุดเริ่มต้นที่ส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน พลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน ทั้งใช้อำนาจเล่นงานผู้เห็นต่างจนหลายคนต้องลี้ภัย หนึ่งในนั้นคือคนที่พลเอกประยุทธ์ถามหาตั้งแต่วันแรก ไม่ต้องกลัว คนเก่งคนนั้นอยู่ในใจพี่น้องประชาชน

เมื่อวานนี้พี่ชายท่าน ชี้ไปว่าคนนี้ปฏิวัติ กลับมาลอยหน้าลอยตา ไม่อายตัวเองบ้างหรือ ดิฉันก็ยังสงสัยนะคะ ในความเบอร์ไหนของท่านเนี่ยค่ะ

นางสาวธีรรัตน์ ระบุต่อว่า ในด้านต่อไปที่พลเอกประยุทธ์ทำ คือการครอบงำรัฐสภา โดยในการอภิปรายวันแรก ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องการแจกกล้วยบ่อยครั้ง มูลค่านับล้านบาท เพื่อแทรกแซงผลโหวตงบประมาณ เพื่อยกให้ผ่านกฎหมาย เพื่อไว้วางใจรัฐมนตรี และรักษาเก้าอี้ของตนเองไว้

นางสาวธีรรัตน์ ระบุต่อว่า ระบบการแจกกล้วยและเลี้ยงงูเห่า เป็นเรื่องที่เคยมีมากในการเมืองไทยช่วงก่อนจะมีรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่น่าเชื่อว่าความเร็วร้ายจะกลับมาในสมัยของพลเอกประยุทธ์

การเมืองไทยมาถึงจุดที่ใช้กล้วยเป็นแรงจูงใจสำคัญในการชักชวนให้ ส.ส. ลงคะแนนไว้วางใจนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ถามว่ากล้วยเหล่านั้นมาจากไหน ก็มาจากภาษีของพี่น้องประชาชน มาจากการฉ้อฉลคอรัปชั่นที่เพื่อนสมาชิกได้แถลง

นางสาวธีรรัตน์ ย้ำว่า ซีรี่ส์การแจกกล้วยเลี้ยงงูเห่ามีให้เห็นได้ในหลายกรณีตั้งแต่การยุบพรรคการเมือง การขู่ว่าจะยุบ จากนั้นก็ใช้กล้วยเพื่อล่อซื้อให้ ส.ส. จำนวนหนึ่งย้ายพรรค จนยอมทรยศเจตนารมย์ของประชาชน สนใจแต่เพียงว่าจะมีกล้วยเมื่อไหร่ จะโทรหาใครดี เพื่อติดต่อขอกินกล้วย และไม่แคร์ความเดือดร้อนของประชาชนหรือการแจกกล้วยให้ ส.ส. ฝ่ายค้านไปขึ้นเวทีปราศรัยและสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลอย่างไม่ละอายใจ ทั้งที่ยังไม่มีการประกาศยุบสภาหรือเข้าสู่ช่วงของการเลือกตั้งรอบใหม่

ทันทีที่นางสาวธีรรัตน์ อภิปรายเรื่องกล้วยจบ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกประท้วง โดยระบุสถานะตนเองว่า “ผมนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่บอกพรรคครับ”

นายคารม ประท้วงว่า ผู้อภิปรายพาดพิงผู้ที่ไม่น่าจะเป็นใครอื่นแล้วนอกจากตน ใช้การเสียดสีใส่ร้ายกล่าวหาตน แม้ตนจะอยู่ในสถานะที่พรรคถูกยุบ และตนประกาศแล้วว่าจะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ผู้อภิปรายก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องว่าร้ายตนเช่นนั้น การกล่าวเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ควรประพฤติ

จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาได้ปิดไมค์ของนายคารม พร้อมระบุว่า เนื่องจากผู้อภิปรายไม่ได้ระบุตัวคน และขอร้องให้เข้าใจว่านักการเมืองแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าไปคิดว่านักการเมืองทุกคนจะกินกล้วยหมดเช่นที่นางสาวธีรรัตน์ อภิปราย ทุกๆ วงการล้วนมีความแตกต่างกัน อยู่ที่แต่ละคน อย่าให้สังคมมองพวกเราไม่ดี

-----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7vVpoVjwxBE