เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 22 ก.ค.65 ไฮไลท์อภิปรายวันที่ 3 - ฝีดาษลิงรายแรกในไทย - พริตตี้ในตู้ปลามังกร

-พ่อร้องลูกสาววัย 3 ขวบ ถูก ปู่ทวดแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศ ลุยแจ้งความแต่กลับถูกย่าทวดกดดันไล่ออกจากพื้นที่ ทั้งที่มีหลักฐานวงจรปิดที่แอบติดไว้ หลังลูกสาวบ่นว่าเจ็บอวัยวะเพศ

-ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอรับผิดชอบเหตุฝนตกน้ำท่วม กทม.คนเดียว 100 เปอเซ็นต์ ไม่ต้องไปโทษคนอื่น เพราะตนเองเป็นผู้ว่าฯในปัจจุบัน ไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่น หรือโทษใครในอดีต ย้ำจะทำให้ดีที่สุด

-กรมควบคุมโรค พบฝีดาษลิงรายแรกในไทย เป็นชายชาวไนจีเรีย เจอที่จังหวัดภูเก็ต ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนโรคแล้ว พร้อมประเมินความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มข้น

-คุณยายวัย 70 ปี ไปขุดหัวข่าริมทาง หวังเอาไปกินกับน้ำพริก แต่ถูกเจ้าของที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ตำรวจไกล่เกลี่ยแต่ไม่ได้ข้อสรุป เพราะผู้กล่าวหาเรียกเงิน 5 พัน แต่ยายไม่มีให้ ลั่นเก็บข่าในที่สาธารณะ ด้านเพื่อนบ้านนับ 10 ยืนยันคุณยายเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น

-อนุทิน ยันยาฟาวิพิราเวียร์ ไม่ขาดแคลน แต่ที่สั่งเข้ามาเพิ่มเพราะรักษาเด็กติดโควิดรับเปิดเทอม รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และเด็กต่ำกว่า 18 ปี ใช้โมลนูพิราเวียร์ไม่ได้

-หนุ่มเมายาบ้าคลุ้มคลั่ง ถือมีดและขวานทำร้ายพ่อแม่ ตำรวจเกลี่ยกล่อมไร้ผล ใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ขา 1 นัด แต่เจ้าตัวไม่สะท้านวิ่งหนีเข้าสวนหลังบ้าน ต้องตามเจรจากว่า 6 ชั่วโมง สบโอกาสใช้กำลังนับ 10 เข้าชาร์จจนสำเร็จ

-แชร์สนั่นโซเชียล พริตตี้สาวแหวกว่ายในตู้ปลามังกร ตัวละ 1 ล้าน ทางร้านแจงจัดคอนเทนต์นางเงือกคู่กับปลาสวยงาม เพื่อโปรโมทร้าน ให้พริตตี้อยู่ในตู้แค่ 5 นาที และพร้อมรับเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม

-ดรามา สั่งอาหารผ่านแอปฯ ขอ “ไข่ดาวไม่สุก” เจอแม่ค้าเขียนด่ายาวเหยียด ต้นเรื่องเผย ถ้าไม่เต็มใจขายก็ปิดร้านไปเถอะ ถ้าหมดกำลังใจ ก็ให้ไปทำอย่างอื่น ด้านพี่ชายเจ้าของร้าน ขอโทษลูกค้า วอนเห็นใจ เหตุออเดอร์เยอะ ไรเดอร์กดดัน เลยเกิดความเครียด



เรื่องเล่าการเมือง

-การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวานเป็นการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวและจะต่อเนื่องพรุ่งนี้อีกวัน ช่วงที่ดุเดือดที่สุด คือช่วงการอภิปรายของ ส.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ซึ่งนายกฯ ก็ลุกขึ้นตอบโต้กลับทันควัน

ส.ส.อมรัตน์ อภิปรายนายกฯ ในข้อกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้เกิดเครือข่ายทุจริตในกองทัพอย่างกว้างขวาง และยังจงใจบ่อนทำลายประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง

โดยชี้ถึงความผิดปกติในการประมูลโครงการของกองทัพหลายโครงการ ที่มีลักษณะเดียวกัน คือ การล็อกสเปคผู้รับเหมา และ ให้เข้าไปดำเนินการก่อนเซ็นสัญญาว่าจ้าง โดยในบางโครงการมีการนำภาพถ่ายจาก google earth และเอกสารข่าวของกองทัพบกมาแสดงเป็นหลักฐานด้วย

ส.ส.อมรัตน์ อภิปรายด้วยถ้อยคำที่ดุเดือดแทบจะตลอดเวลา ช่วงหนึ่งใช้คำว่า "กองทัพ หรือ กองโจร"

ช่วงหนึ่ง ส.ส.อมรัตน์ อภิปรายว่า กระทรวงกลาโหมได้ทำโครงการที่เคยริเริ่มในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และได้พูดไปถึงชื่อเล่นของท่านนายกฯ

ช่วงท้าย ส.ส.อมรัตน์ ได้อภิปรายตำหนิพฤติกรรมของนายกฯ กรณีที่ยกมือยอมรับว่าเป็นผู้ปฏิวัติเพียงคนเดียว โดยระบุว่า ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีกาลเทศะ และช่วงท้ายได้นำกระจกมามอบให้กับนายกฯด้วย

สำหรับท่านนายกฯ ได้เข้ามานั่งฟังการอภิปรายของ ส.ส.อมรัตน์ ในช่วงท้ายแล้ว เนื่องจากท่านมีภารกิจไปถวายเครื่องสักการะ แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ณวัดราชบพิธฯ

ซึ่งเมื่อ ส.ส.อมรัตน์ อภิปรายจบ นายกฯ ได้ลุกขึ้นขอชี้แจงทันที ฟังตอนต้นหลายท่านอาจจะคิดว่าท่านคงตอบโต้ไม่ดุเดือด เพราะท่านพูดทำนองว่า ไปทำบุญมา เอาบุญมาฝาก แต่ต้องฟังต่อ หลังจากนั้น

หลังจากนั้นท่านนายกฯก็ชี้แจงประเด็นต่างๆที่ถูกอภิปราย ถูกตั้งคำถามตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งท่านก็ใช้เวลาชี้แจงเรื่องต่างๆ สั้นๆ รวมถึงเรื่องจีที 200 ที่ถูก ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า "3 ป." มีส่วนร่วมกับการสั่งซื้อ โดยขายให้บริษัทที่เป็นเครือข่ายของ พล.อ.ประวิตร ทำให้ไม่กล้าดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว

นายกฯ ชี้แจงว่ากระทรวงกลาโหมได้ดำเนินคดีอยู่ ไม่ได้นิ่งเฉย และบอกว่าเรื่องจีที 200 เป็นปัญหาทั้งโลก ในตอนนั้นมีการใช้ในสงครามต่างๆ รวมถึงสงครามอิรัก

และช่วงท้ายท่านนายกฯ ก็ได้ชี้แจงอย่างดุเดือดอีกครั้ง โดยช่วงหนึ่ง ได้บอกว่า ท่านรับไม่ได้เท่าไหร่กับสิ่งที่มีการพูดถึงท่าน แต่ก็ต้องรับให้ได้เพราะเป็นนายกฯ และบอกว่า ในห้องนี้มีไม่กี่คนที่เป็นนายกฯ ฉะนั้น ท่านเป็นนายกฯ ท่านย่อมมีประสบการณ์มากกว่า

ทั้งนี้ระหว่างนายกฯ ลุกขึ้นชี้แจง ส.ส.อมรรัตน์ ได้เดินไปหน้าบัลลังก์เพื่อนำกระจกไปมอบให้ท่านนายกฯ แต่เดินไปไม่ถึงนายกฯ เพราะเจ้าหน้าที่มากันไว้ และรับกระจกไว้แทน



-เรื่องของสปายแวร์ "เพกาซัส" ที่กำลังเป็นประเด็นว่ามีการใช้สอดแนม กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในไทยหลายสิบคนโดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายเปิดโปงการทำงานของสปายแวร์เพกาซัส หลังจากที่ กลุ่มไอลอว์ ออกมาแฉหลักฐาน ว่ารัฐบาลไทยใช้สปายแวร์เพกาซัส สอดแนมประชาชน อย่างน้อย 30 คน ทั้งนักกิจกรรม นักวิชาการ และ เจ้าหน้าที่ NGO.

ส.ส.พิจารณ์ บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายเพราะสปายแวร์เพกาซัส เป็นอาวุธสงครามทางไซเบอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก สามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือของประชาชนได้โดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันมีการใช้ใน45ประเทศ

ส.ส.พิจารณ์ บอกว่าการดำเนินการเรื่องนี้เป็นการจงใจคุกคามประชาชน และหากใครโดนสปายแวร์เข้าฝังตัวแล้วการตรวจสอบจะเป็นเรื่องยาก เพราะเพกาซัสอาจมาในรูปแบบข้อความโดยที่เราไม่ต้องกดดู ก็ถูกเพกาซัส เข้าฝังตัวได้

สำหรับคนที่ถูกสปายแวร์ เข้าโจมตี มี 5คน เป็น นักการเมืองฝ่ายค้าน

อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า / ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า / นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล / น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส. พรรคก้าวไกล และนายปกรณ์ อารีกุล ผู้ช่วย ส.ส. (นายรังสิมันต์ โรม)

ด้านพลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีโยบายใช้สปายแวร์เพื่อ ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ส่วนข้อมูลที่บอกว่า ปัจจุบันไทยเป็น 1 ใน45 ประเทศที่ใช้ใช้สปายแวร์เพกาซัสนั้น ข้อเท็จจริงเป็นเพียงการแจ้งเตือนของบริษัท ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ (ค่ายแอปเปิ้ล) หลังจากมีการติดตั้งสปายแวร์ ที่เกิดจากบริษัทผลิตเอง



-ส่วนผลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ แม้บางคนอาจจะหวังให้เกิดการเปลี่ยนทางการเมือง แต่เมื่อวาน พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไปจนครบเทอม คืออีก 8 เดือนเศษ

โดยระหว่างลุกขึ้นชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องภาพรวมทางเศรษฐกิจในช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวว่า "ในเวลาที่เหลืออีกกว่า 250 วันของรัฐบาล รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ออกจากวิกฤตทางเศรษฐกิจให้ได้โดยเร็วที่สุด"

นั่นหมายถึงว่านายกฯนับอายุรัฐบาลไปจนถึงวันครบวาระในเดือนมีนาคม ปีหน้า ซึ่งจะเหลือเวลาอีก 8 เดือนเศษ

ทั้งนี้นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลชุดใดในประเทศไทยที่เจอปัญหาเช่นเดียวกับที่รัฐบาลนี้เจอ คือ สถานการณ์ที่เจอทั้งโรคโควิด และ สงคราม ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานเต็มที่มาโดยตลอด และประเทศไทยจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบศรีลังกาแน่นอน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WvCaNPeMkE0