เมาไม่ขับ จอดหลับข้างทาง นึกว่าเกิดเหตุร้าย ปลุกทุกทางกว่าจะรู้ตัว

รู้แต่ว่าต้องจอด เพราะถ้าไปต่อเกิดอุบัติเหตุแน่  หนุ่มเมาแอ๋ตัดสินใจจอดนอน จนหลับสนิท เจ้าหน้าที่ทั้งปลุด ทั้งเขย่า ใช้น้ฉีดกว่าจะรู้ตัว

โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ศูนย์วิทยุของสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถจอดอยู่บริเวณทางคู่ขนาน ริมถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ตรงกับบริเวณหน้าภัตตาคารนิวรสทิพย์ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และภายในรถมีชายนอนถอดเสื้อแน่นิ่งไม่ไหวติง เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น จึงรีบประสานให้เจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ ก็พบกับรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีดำ จอดดับเครื่องอยู่ แล้วมีชายหนึ่งคนนอนอยู่ด้านหน้ารถฝั่งคนขับในสภาพเปลือย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเรียกชายคนดังกล่าว ทั้งเคาะกระจก ทั้งเขย่ารถแล้ว และตะโกนเรียกแล้วแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ทำสารพัดวิธีทั้งเขย่ารถ ทั้งเคาะกระจก และพยายามตะโกนเรียก แต่ก็ยังไร้การตอบสนองเหมือนเดิม จึงทำให้ทุกคนเกรงว่าหากปล่อยไว้นานผู้ที่อยู่ในรถจะขาดอากาศหายใจได้ ก็เลยทดสอบด้วยการงัดประตูให้เป็นช่องเล็กๆ แล้วยิงน้ำเย็นๆ ผ่านเข้าไปใส่ร่างกายชายในรถก่อน ปรากฏว่ามีการขยับเขยื้อนเล็กน้อย ทำให้สบายใจขึ้นว่าชายในรถยังไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด จากนั้นก็รีบใช้อุปกรณ์เสริมมาช่วยกันเปิดประตูรถออก ซึ่งก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดประตูรถได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกับเจ้าหน้ามูลนิธิฯ จะช่วยกันปลุกจนรู้สึกตัวตื่น ซึ่งเมื่อชายในรถตื่นขึ้นมาก็มีอาการเขินๆ อายๆ แล้วก็ถามตำรวจว่าตนเองมานอนอยู่ตรงนี้นานแล้วเหรอ พอได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านานแล้ว เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ก็ได้แต่ยิ้มๆ และยอมทำตามตำรวจคือ ให้ตำรวจขับรถพาไปจอดนอนที่โรงพักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยขับรถกลับบ้านต่อไป

ด้านคนขับรถเล่าว่า ได้ไปดื่มสุราในงานเลี้ยงสังสรรค์มา และกำลังจะกลับบ้านที่ตำบลกาหลง อ.เมืองสมุทรสาคร แต่เมื่อมาถึงกลางทางรู้สึกขับไม่ไหว จึงแวะพักจอดนอนริมทาง โดยตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าริมทางที่จอดอยู่บริเวณส่วนไหน รู้แต่ว่าต้องจอดก่อนหากฝืนขับต่อไปคงไม่พ้นเกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน และก็หลับลึกจนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีเจ้าหน้าที่มาเปิดประตูปลุกให้ลุกขึ้น

ส่วนพลเมืองดีบอกว่า ตนเห็นรถคันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เห็นจอดรถบริเวณนี้โดยเบิ้ลเครื่องและก็ดับพร้อมกับบีบแตร เหมือนจะขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง แต่ตนก็ยังไม่เข้าไปดู รอสักพักเห็นว่าเสียงรถเงียบไปจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ