แม่เตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์ หลังลูกสาววัย 17 ถูกหลอกโอนเงิน สูญเกือบ 7 แสน

ผู้ปกครองของเยาวชนหญิง อายุ 17 ปี เปิดใจเตือนภัยแก้งค์มิจฉาชีพหลังลูกสาวถูกหลอกให้ลงทุนทางออนไลน์ เพียง 2 ชั่วโมง สูญเงินในบัญชีจนหมดถึงเกือบ 7 แสนบาท



มีเอกสารหลักฐาน การแชทคุย ระหว่างเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี กับ แอดมินของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่เสนอเชิญชวนให้ลงทุนซึ่งหลอกให้ลงทุนทางออนไลน์ โดยจากแชทจะเห็นว่าทางแอดมินได้ส่งข้อความให้เยาวชนหญิงรายนี้ ลงทุนและโอนเงินเพิ่มเข้าบัญชีของแอดมินเรื่อย ๆ จนสุดท้ายสูญเงินไปถึง 6 แสน 8 หมื่นบาท



ลุงของเยาวชนหญิงรายนี้ เปิดเผยว่า หลานสาวของตนกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย และอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ครอบครัวมีข้อจำกัดหลายอย่าง หลานจึงอยากที่จะหารายได้



จนเมื่อช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลานได้ไปเจอโพสต์ในทวิตเตอร์ชักชวนให้นำเงินไปลงทุนออนไลน์ แล้วจะได้ผลกำไรตอบแทนจึงสนใจ และเข้าไปสอบถามกับมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทางไลน์ จากนั้นมิจฉาชีพได้หลอกให้โอนเงินเพื่อลงทุน ซึ่งหลานสาวได้ใช้โทรศัพท์ของแม่ และโอนเงินจากบัญชีธนาคารของแม่ ตามที่มิจฉาชีพบอก เริ่มจากจำนวนเงินน้อย แล้วก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น



จนหลานเริ่มผิดสังเกตเพราะยังไม่ได้เงินตอบแทนจึงอยากขอเงินคืน มิจฉาชีพจึงบอกให้โอนเงินเพื่อปลดล้อคระบบการถอน หลานก็หลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่ม จนสุดท้ายรู้ตัวว่าถูกหลอก



ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หลานมีเจตนาที่จะเอาเงินของแม่ไปลงทุนเพื่อหาเงินเพิ่มไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดี ซึ่งมิจฉาชีพ ได้ใช้ช่องทางทวิตเตอร์เพื่อเข้าถึงเยาวชน โดย ตั้งโปรไฟล์เป็นรูปศิลปินเกาหลี ใช้ภาษาเกาหลี เพื่อดึงดูดกลุ่มเยาวชนให้หลงเชื่อ ซึ่งขณะนี้แม่ของหลานได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธินแล้ว



ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับคุณแม่ของเยาวชนหญิงรายนี้ ซึ่งเธอบอกว่าหลังจากลูกสาวติดต่อกับแอดมินซึ่งเป็นมิจฉาชีพแล้ว แอดมิน ก็จะส่งต่อให้ปรึกษาพูดคุยกับโค้ชเรื่องการเงิน โดยจะมีการถามอายุ อาชีพ และ อธิบายขั้นตอนการลงทุน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ



โดยลูกของตนลงทุนเริ่มแรกจากเงิน 50 บาท และก็ถูกหลอกล่อให้เพิ่มจำนวนเงินเป็นหลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น เมื่อลูกสาวเริ่มสงสัยว่ายังไม่ได้เงินตอบแทน จึงขอเงินคืน ก็ถูกหลอกให้โอนเงินเพิ่มไปอีกจนหมดบัญชี ซึ่งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น



เมื่อลูกสาวรู้ว่าถูกหลอก จึงหนีออกจากบ้านเพราะกลัวตนจะว่ากล่าว และส่งข้อความเสียงมาหาตนขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนทราบเรื่องได้ออกติดตามหาลูก และพาลูกไปแจ้งความ โดยไม่ได้ติดต่อกลับไปหามิจฉาชีพอีก ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากให้เป็นอุทาหรณ์และบทเรียน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/OK7-5AUrgcE