สาวอุดรฯ ช้ำโดนหลอกลงทุนธุรกิจน้ำมัน วอนทหารมาเคลียร์-สูญ 17 ล้านบาท

วันนี้ (3 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ปุ๋ย อายุ 26 ปี (นามสมมติ) ชาวจ.อุดรธานี ว่าถูกทหารยศ ส.ท.หลอกให้ธุรกิจส่งน้ำมัน แต่สุดท้ายต้องสูญเงิน 17 ล้าน โดยเป็นเงินที่กู้จากแหล่งเงินทุนธนาคารและหุ้นส่วนบริษัท

น.ส.ปุ๋ย เปิดเผยว่า ตนทำงานธุรกิจความงาม อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ตนรู้จักกับนายต้อง อายุ 44 ปี (นามสมมติ) เป็นทหารยศสิบโท เป็นชาวจ.หนองบัวลำภู มาเป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว และครอบครัวเขามีธุรกิจส่งน้ำมันอยู่แล้ว และเขาได้ชวนมาทำธุรกิจขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ตนมองเห็นว่าอนาคตต่อไปน้ำมันแพงแน่ จึงตัดสินใจลงทุนไปเมื่อเดือนเม.ย.64 โดยทยอยลงไปเรื่อย ๆ รวมแล้วจำนวน 17 ล้าน โดยมีเงื่อนไขว่า มาแบ่งกำไรกัน ตนและหุ้นส่วนจะได้กำไรลิตรละ 1 บาท แต่หากขาดทุนหรือได้กำไรมากกว่าค่อยมาคุยกัน

ทั้งนี้ เขามีห้างหุ้นส่วนและบริษัทอยู่แล้ว ตนเข้ามาร่วมทุนในบริษัทเขา แต่เขาติดหนี้คลังน้ำมันอยู่ 4 ล้านบาท ตนและหุ้นส่วนได้ใช้หนี้ 4 ล้านบาท และบอกว่าจะดูแลหนี้ก้อนและจะโยกลูกหนี้มาบริหารเองเพื่อคุมลูกหนี้ให้หมุนเงินให้ทัน จากนั้นทยอยเพิ่มทุนทีละ 1 ล้าน 2 ล้าน 3 ล้าน แต่พอถึงเดือน ส.ค.64 ปรากฏว่าเงินจากขายส่งน้ำมันไม่มีเงินเข้ามาบริษัทเลย บางเดือนมีเพียง 20,000 บาท หรือ 1 แสน ผิดปกติมาก ทั้งที่ซื้อน้ำมันเป็นล้านบาท ก็เลยตรวจเช็กบัญชีใหม่ ปรากฏว่าเงินหายทีละ 3 ล้าน 5 ล้าน ตนก็เช็กกับลูกค้าคืออะไรกันแน่ ทางลูกค้าน้ำมันก็บอกว่า น้องสาวของส.ท.ต้อง สั่งให้ลูกค้าน้ำมันโอนเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนและบัญชีส่วนตัวของน้องสาวเขา



น.ส.ปุ๋ย กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ตนเดือดร้อนมากเพราะเงินจำนวน 17 ล้านบาท เป็นเงินไม่น้อย มีหุ้นส่วนบางคนญาติเขาป่วย ลูกไปโรงเรียน เงินทุกบาทเขาก็กู้มาร่วมลงทุน และตนต้องไปกู้เงินจำนวนนี้จากธนาคารมา ตนเป็นคนรักษาเครดิต ตอนนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละหลายแสนบาท ลำบากมาก นอนไม่หลับแทบทุกคืน เพราะต้องเอาเงินส่วนตัวไปผ่อนธนาคารคนเดียว เสียใจมาก ด้วยความไว้ใจที่รู้จักกันมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีจากเพื่อน ๆ เหตุที่เขาชวนเราไปลงทุนคิดว่าเขาเห็นว่าเรามีเงินจึงมาชวนเราลงทุน แต่ไม่น่าทำกันแบบนี้ แบบนี้ถือว่าหลอกกัน ตนอยากให้เขามาพูดคุยกัน หากเขาไม่ไหว ทำเรื่องโอนทรัพย์สินของเขามาให้ตนบริหาร ตนไม่อยากเสียเครดิต ตนทำงานสู้ชีวิตมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ไม่เคยเสียเครดิต แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอแบบนี้ อยากให้ส.ท.ต้อง ออกมาเคลียร์กัน พอถามเรื่องนี้ไป เขาก็บอกว่าอย่าทำให้เขาอึดอัดอาจจะทำให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำก็ได้

ด้าน นายสิปปภาส ชาญธีระเดช ทนายความ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่ทหารค่ายหนึ่ง อ้างตัวว่ารู้จักผู้ใหญ่มีเส้นสายในการทำธุรกิจน้ำมัน ซึ่งครอบครัวก็ทำธุรกิจน้ำมันมาก่อน แต่วันหนึ่งขาดสภาพคล่องเลยมาชักชวนผู้เสียหายเข้าร่วมทำธุรกิจด้วยกัน โดยเข้ามาจำหน่ายน้ำมัน เมื่อผู้เสียหายยินยอมได้มีการตกลงกันว่า ทางผู้เสียหายออกเงินทุน ทางตัวทหารกับครอบครัวออกทรัพยากร เช่น บุคลากรหรือการทำการตลาด รถขนส่งน้ำมัน กำไรจะแบ่งปันผลให้เท่า ๆ กัน

นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงกันว่า ในการซื้อขายน้ำมันต้องออกในนามของผู้เสียหายเท่านั้น ซื้อในนามของผู้เสียหาย ขายในนามของผู้เสียหาย ได้ผลกำไรโอนเงินเข้ามา แต่ข้อตกลงไม่เป็นไปแบบนั้น ทหารกับครอบครัวได้ใช้วิธีไปติดต่อลูกค้าแล้วให้โอนเงินเข้าตัวเองโดยตรงไม่ผ่านบริษัท กรณีนี้เป็นลักษณะหลอกให้ผู้เสียหายลงทุนให้แล้วตัวเองก็เอาเงินไป โดยมูลค่าความเสียหาย 17 ล้านบาท ซึ่งเรื่องตอนนี้อยู่ในชั้นศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้งนี้ เราได้มีการฟ้องร้องทหารไป 2 คดี คือ การขโมยน้ำมัน 51,000 ลิตรออกไปขาย คิดเป็นเงิน 1 ล้านกว่าบาท คดีที่ 2 เราตรวจสอบบัญชีที่ทางทหารจะทำมาให้ช่วงระยะเวลา 3 เดือน ขายน้ำมันให้ใครบ้าง ซึ่งบัญชีขายแล้วกลับไม่เอาเงินเข้าบริษัท ซึ่งศาลสั่งมีมูลทั้ง 2 คดี