เปิดใจหนุ่มนักปั่นถูกกระแทกล้ม เสียใจคู่กรณีไร้น้ำใจนักกีฬา ลุยแจ้งความฐานทำร้ายร่างกาย

ความคืบหน้ากรณีที่ นักปั่นจักรยานรายหนึ่ง กำลังพยายามทำความเร็ว แซงจักรยานคู่แข่ง ช่วงก่อนเข้าเส้นชัยไม่กี่เมตร ได้ใช้หัวไหล่ซ้าย กระแทกเข้าไปที่หัวไหล่ขวา ของผู้เข้าแข่งขันอีกคน จนทำให้ผู้เข้าแข่งขันรายนี้ เสียหลักล้มลง ส่วนตัวเองก็ปั่นต่อเข้าเส้นชัย

ซึ่งมีอีกคลิป ที่บันทึกภาพขณะที่ชายที่ก่อเหตุรายเดียวกันนี้ มีการใช้มือลักษณะคล้ายผลักผู้เข้าแข่งขันอีกรายด้วย


ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้ที่ถูกกระแทก จนเสียหลักล้ม ก็คือ นายจักรพัชร วรศิริ หรือ เตอร์ อายุ 20 ปี นักปั่นจักรยานดาวรุ่ง ซึ่งลงแข่งขันในทีมเสี้ยวลิ้มยี่ เล่าว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นวันที่ 19 มิถุนายน ตอนประมาณ 11 โมง ขณะลงแข่ง ในการแข่งขัน "จักรยานเสือภูเขาทางเรียบใจเกิน 100 และการแข่งขัน ปั่นเพื่อชีวิต sport tourism bike 4all" ที่บึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร   แต่ขณะกำลังจะเข้าเส้นชัย ปรากฏว่าคู่กรณี เอาไหล่ซ้ายมากระแทก จนเสียหลักล้มลง

ตอนนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนชน แต่พอตนกลับมาบ้านช่วงเย็น มีรุ่นพี่และคนที่รู้จักส่งภาพคลิปมาให้ดู และเห็นพฤติกรรม และทราบว่าคู่กรณีคือ นายณัฐพล ซึ่งตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยเจอมาก่อน จึงไม่ทราบว่าทำไปเพราะอะไร และเจ้าตัวก็ยังไม่ได้ติดต่อมา แสดงความรับผิดชอบ หรือพูดคุย

จากที่ตนลงแข่งจักรยานมาเป็นปีที่ 4 ในชีวิตไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และมองว่า มันไม่ควรเกิดขึ้นในนักกีฬา ควรมีน้ำใจนักกีฬามากกว่า และการทำแบบนี้ ก็ทำให้ตนไม่ได้ทั้งอันดับ ยอมรับว่ารู้สึกโกรธ และเสียใจ

อีกทั้งยังทำให้ตนบาดเจ็บ ที่ข้อศอกขวา และสะโพกด้านขวา และรอยแผลถลอก เบื้องต้นได้ไปเอกซเรย์แล้ว เคราะห์ดีที่กระดูกไม่แตกหัก อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่แพทย์นัดติดตามอาการอีกครั้ง 23 มิถุนายนนี้

แต่ที่กังวลใจคือ รถจักรยานคู่ใจ ที่เสียหายหนักทั้งล้อหน้าแตก เฟรมบุบ มือเปลี่ยนเกียร์ถลอก แกนปลดล้อหลังมีรอย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งตนอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหาย

เบื้องต้นเมื่อวานนี้ ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.เสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น

ส่วนในมุมของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ก็ได้ดำเนินการพิจารณา แล้วเห็นว่า เป็นการกระทำความผิดอย่างร้ายแรง ในช่วงเร่งความเร็วเข้าเส้นชัย เป็นการกระทำที่ผิดกฏ เจตนาผลักนักกีฬาต่างทีม, แสดงกริยา / พฤติกรรม ที่เป็นข้อห้าม ในการสปรินท์เข้าเส้นชัย และ พฤติกรรมที่แสดงออก ถึงความไม่มีน้ำใจนักกีฬา ทางคณะกรรมการเห็นควร ให้ลงโทษ ด้วยการพักการแข่งขันนายณัฐพล เป็นเวลา 1 ปี

แต่ส่วนตัวของผู้เสียหาย ก็กังวลว่า หลังจากครบ 1 ปี แล้วกลับมาแข่งขันอีก เกรงว่าจะมีพฤติกรรมลักษณะเช่นนี้อีก