สังคม

รพ.นัดไกล่เกลี่ย 'แบงค์' หลังผ่าตัดทำพิการ 'ทนายไพศาล' เร่งช่วยเหลือ ทวงคืนความยุติธรรม

โดย paweena_c

9 มิ.ย. 2565

126 views

นัดไกล่เกลี่ย 14 มิถุนายนนี้ กรณี'แบงค์' หนุ่มอดข้าวประท้วง ขอความยุติธรรม หลังโรงพยาบาลผ่าตัดโรคหมอนรองกระดูกผิดพลาด ทำพิการเดินไม่ได้ 

กรณีน้องแบงค์ ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังป่วยโรคหมอนรองกระดูก ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง สุดท้ายกลายเป็นคนพิการ ซึ่งความคืบหน้าต่อจากเมื่อวานนี้ ทางทนายไพศาล ช่วยประสานโรงพยาบาล ล่าสุดทีมทนายโรงพยาบาลเผย มีการสอบสวนภายในแล้ว ระบุไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เตรียมไกล่เกลี่ย 14 มิถุนายนนี้

หลังจากเมื่อวานนี้ ทีมข่าวได้ติดตามกรณีของ 'แบงค์' หนุ่มอายุ 32 ปี ที่ร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนเองป่วยโรคหมอนรองกระดูก ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ต้องกลายเป็นคนพิการ ทางโรงพยาบาลเองไม่รับผิดชอบ อ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

หลังจากนั้น 'แบงค์' ติดต่อร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครช่วย ทำให้ 'แบงค์' แต่งตั้งทนายฟ้องดำเนินคดีกับหมอและทางโรงพยาบาลเอง และศาลได้นัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ขณะเดียวกัน 'แบงค์' ได้อดข้าวมา 5 วันแล้ว และถ้าไม่ได้ความเป็นธรรม ก็มีความคิดที่จะจบชีวิตตัวเอง

ความคืบหน้าช่วงบ่ายวานนี้ ทางทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ได้เดินทางไปที่ สน.หลักสอง เพื่อที่จะมายื่นหนังสือให้พิจารณา เร่งดำเนินคดีให้กับน้องแบงค์ ให้ได้รับความยุติธรรมเร็วที่สุด ซึ่งในส่วนนี้น้องแบงค์ อยากให้หมอเจ้าของไข้ออกมารับผิดชอบและได้รับบทลงโทษ

ต่อมาทีมทนายไพศาลได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลดังย่านบางแค ที่ 'แบงค์' ได้รับการผ่าตัด เพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการดำเนินการช่วยเหลือ โดยทางโรงพยาบาลได้ส่งทีมกฎหมายเข้ามาพูดคุยกับทนายไพศาล และแจ้งว่ารอไกล่เกลี่ยในวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลอาจตั้งโต๊ะแถลงข่าว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แจ้งว่า เบื้องต้นมีการสอบสวนกันภายในแล้วว่า 'ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย' แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งเป็นกระบวนการของทางโรงพยาบาล ในส่วนที่น้องแบงค์ ตัดสินใจว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตายที่ศาล ตนเองได้สอบถามทางโรงพยาบาลว่าจะมีขั้นตอนช่วยเหลืออย่างไร ทางโรงพยาบาลแจ้งว่ามีแผนรองรับไว้แล้ว

หลังจากนั้น ทนายไพศาล ได้พูดคุยกับ 'แบงค์' ซึ่ง 'แบงค์' เองอยากให้คุณหมอเจ้าของไข้ได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย ต้องการให้เป็นเคสตัวเอง ซึ่งทนายได้แนะนำไปว่าหากพบคุณหมอที่รักษาเข้าข่ายกระทำความผิดจริง เราสามารถดำเนินคดีได้ ในส่วนนี้แบงค์เพิ่งทราบ และตนเองได้บอกแบงค์ว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อคืนความยุติธรรมให้แบงค์ให้ได้ จึงทำให้แบงค์ ยอมเดินทางไปฉีดยาที่โรงพยาบาล

ส่วนเรื่องของวันที่ 14 มิถุนายนนั้น ตนจึงขอเวลา ในการช่วยประสานงานให้แบงค์ได้รับความยุติธรรมให้เร็วที่สุด ซึ่งมีเวลาอีกเพียง 6 วัน เพื่อให้แบงค์เปลี่ยนใจไม่คิดสั้น

คุณอาจสนใจ