สังคม

'ชัชชาติ' จ่อเสนอศบค. ให้คนกรุงถอดแมสก์ในสวนสาธารณะ-พื้นที่โล่งแจ้ง

โดย parichat_p

8 มิ.ย. 2565

24 views

ชัชชาติ เตรียมเสนอศบค.ชุดเล็ก ให้กทม.ถอดหน้ากากในสวนสาธารณะและพื้นที่โล่งแจ้ง เว้นระยะห่าง 1 เมตร พร้อมแจง ปมไม่ไปร่วมงานเปิดเดินเรือ เพราะไม่ได้รับหนังสือเชิญ และไม่ทราบ ขออย่านำมาเป็นประเด็น-อย่าเปรียบเทียบยอดไลฟ์เฟสบุ๊ก กับนายกฯ เพราะต่างคนต่างทำงาน ขณะที่พี่ชาย ห่วงสุขภาพ พักผ่อนน้อย พร้อมขอให้ทุกคนร่วมมือ ผู้ว่ากทม.ทำงานคนเดียวไม่ได้


วันนี้(8 มิ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่า ที่ประชุมมีมติให้ถอดหน้ากากอนามัยในพื้นสวนสาธารณะ และพื้นที่โล่งแจ้ง ระยะห่างเกิน1เมตร โดยขึ้นอยู่กับความสมัคร ซึ่งจะเสนอ ศบค.ชุดเล็กในวันพรุ่งนี้ แต่ยกเว้นบางพื้นที่ เช่นตลาดนัด สนามกีฬา สนามม้า และกลุ่มเสี่ยง60/8 และผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีน โดยจะเสนอ ศบค.ชุดเล็กพิจารณาในวันพรุ่งนี้



ส่วนกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าจะถอดหรือใส่แมสก์ เป็นสิทธิของประชาชนนั้น นายชัชชาติมองว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของศบค. และขณะนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพราะยังไม่มีการแก้กฎหมาย ซึ่งศบค.จะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 17 มิ.ย. ทั้งนี้ก็จะต้องรอที่ประชุมศบค.ชุดเล็กพิจารณาว่าจะมีความเห็นอย่างไรด้วย


ทั้งนี้นายชัชชาติ ยังชี้แจงถึงกรณีที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานเปิดเดินเรือท่าช้าง-สาธร ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีการวิพากวิจารณ์ว่าในอดีต ผู้ว่ากทม.ต้องไปร่วมงานเนื่องจากเป็นระบบขนส่งสาธารณะ ว่า ตนเองไม่ทราบและไม่ได้ถูกเชิญ ซึ่งก็ได้สอบถามปลัดกทม. และเจ้าหน้าที่ว่ามีหนังสือมาหรือไม่ แต่ก็ไม่มี และไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน ซึ่งหากมีหนังสือเชิญไปตนเองยืนยันว่าไปแน่นอน



เมื่อถามย้ำว่า การเปิดเดินเรือเป็นนโยบาย การเชื่อมต่อ ล้อ ราง เรือ ของกทม.หลายคนจับต้องว่าผู้ว่ากทม.จะได้พบกับนายก นั้น นายชัชชาติ บอกว่า ไม่มีหรอก อย่านำมาเป็นประเด็นเลยครับ และถ้าไม่มีหนังสือเชิญ เราไปก็คงแปลก เพราะเราไม่ใช่เจ้าภาพ คงจะมีการคัดเลือกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไป


พร้อมยอมรับว่า เมื่อเช้าเห็นข่าวก็ตกใจ เพราะตนเองไม่รู้เรื่องจริงๆ ซึ่งเมื่อถามปลัดกทม.และหน้าก้องแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่มัหนังสือเชิญ และถ้าเชิญมาก็ต้องไปแน่นอนเพราะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ อยู่ในนโยบายการเชื่อมต่อคมนาคมอยู่แล้ว



นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงประเด็นถูกเปรียบเทียบการไลฟ์เฟซบุ๊ก กับนายกรัฐมนตรีที่เพจไทยคู่ฟ้ามีคนดูน้อยกว่าว่า อย่านำมาเปรียบเทียบกัน การไลฟ์ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบ ขออย่านำยอดไลฟ์มาเป็นตัวชี้วัดเพราะเป็นเรื่องการทำงาน พร้อมบอกด้วยว่า ตนเองเป็นน้อย นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่ อย่านำมาเปรียบเทียบ ต่างคนก็ต่างทำงาน ไม่มีอะไร


โดยภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น สื่อมวลชนได้ขอให้นายแพทย์ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดถึงนายชัชชาติ ที่เข้ามาเป็นผู้ว่ากทม.ว่า นายชัชขาติมีความตั้งใจแต่งาน กทม.สำเร็จด้วยตัวคนเดียวไม่ได้เป็นหน้าที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือกันก็เดินต่อไปได้ ตนเองก็ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการ



ส่วนในฐานะพี่น้องมีการปรึกษาอะไรกันหรือไม่ นายแพทย์ฉันชาย ตอบว่า เดี๋ยวนี้ตามตัวยาก เพราะงานเยอะ ซึ่งก็พยายามให้คำแนะนำในเรื่องที่เราเชี่ยวชาญ


ทั้งนี้ นายชัชชาติ ได้ถามผู้สื่อข่าวว่า ‘เหมือนกันหรือไม่’ แล้วบอกว่า ไม่เหมือนกันนะ เพราะตนเองตัวดำ แต่มีส่วนสูงเท่ากัน



ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นห่วงสุขภาพการออกกำลัง การทำงานของนายชัชชาติหรือไม่ นายแพทย์ฉันชาย ตอบว่า การออกกำลังกายไม่ห่วงเพราะเขาทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว แต่เห็นว่าช่วงนี้ทำงานหนัก พยายามบอกให้พักผ่อน ซึ่งสุขภาพกายก็เป็นห่วง ส่วนสุขภาพใจก็พยายามส่งกำลังใจให้เขาเสมอ


จากนั้นได้ถ่ายภาพคู่กัน ในท่าชนหมัด ซึ่งเป็นท่าประจำตัวของนายชัชชาติ และนายชัชชาติ ได้พาพี่ชาย เข้าไปดูห้องทำงานเป็นครั้งแรก และได้แนะนำทีมงานของตนเองให้รู้จักกับนายแพทย์ฉันชาย ซึ่งนายแพทย์ฉันชาย ได้แซว นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการฯ ว่า ทำงานกับชัชชาติ ต้องตื่นตี5เลยใช่หรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News