เกือบเนียน! หนุ่มใหญ่ประมูลรถตราโล่ ใช้ขนยางพาราหนีภาษีกว่า 5 ตัน

วันที่ 2 มิถุนายน 2565 พันเอกภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25  กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า จะมีการลักลอบนำยางพาราหนีภาษี จากประเทศเมียนมา ข้ามแม่น้ำกระบุรี เข้าไทยทางฝั่งพื้นที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงสั่งการให้กองร้อย ร.2521  หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี แบ่งกำลังเข้าทำการซุ่มเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนสินค้าการเกษตรไม่ผ่านพิธีการศุลกากร

จนกระทั่งเมื่อเที่ยงที่ผ่านมา พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย 4 ประตูสีขาว-แดงเลือดหมู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาบริเวณที่ จนท.เฝ้าซุ่มพราง บริเวณริมตลิ่งลำน้ำกระบุรี แนวชายแดนไทย บ้านนาล่าง ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง พร้อมได้ยินเสียงเรือหางยาวเข้าเทียบท่าเรือตามธรรมชาติ  โดยมีกลุ่มคนทั้งหมดประมาณ 6 คน ได้ช่วยกันขนถ่ายยางพาราแผ่นจากเรือมาขึ้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว  

จนท.จึงเข้าแสดงตัว ทำการตรวจยึดรถยนต์และเรือหางยาวขนาดใหญ่ ที่ใช้ขนยางพาราแผ่นจากหมู่บ้านพอทรุด อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา เข้ามาสู่ฝั่งประเทศไทย โดยขณะเข้าทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ทหารใช้ความละมุนละม่อม พร้อมเรียกให้ผู้กระทำความผิดบางส่วน ที่กระโดดน้ำหนี ให้ว่ายน้ำกลับเข้ามา เดี๋ยวจะจมน้ำเสียชีวิตไปโดยใช่เหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้น  นายขวัญชัย หรือหวือ อายุ 53 ปี ชาวไทย ให้การยอมรับเป็นคนขับ รถยนต์กระบะสี่ประตูที่ประมูลจากกรมตำรวจ ในราคา 40,000 บาท ใช้งานมา 5 ปี โดยไม่ได้ทำสีใหม่ ส่วนเรือหางยาวเพิ่งซื้อมาจากเพื่อนบ้าน ในราคา 30,000 บาท พร้อมเครื่องยนต์  

ส่วนยางพาราหนีภาษีนั้น รับซื้อจากผู้เฒ่าดำ หมู่บ้านพอทรุด ประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา กก.ละ 56 บาท เมื่อนำมาขายฝั่งไทยจะได้ราคา กก.ละ 58 บาท ทำมาเป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง ส่วนชาวเมียนมาทั้ง 5 คน มาจากหมู่บ้านพอทรุด ได้รับค่าจ้างเหมาในการช่วยขนยางพารา ในราคา กก.ละ 50 สตางค์

ก่อนส่งตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย พร้อมของกลางรถยนต์พาหนะ 1 คัน เรือหางยาว 1 ลำ และแผ่นยางพาราดิบ น้ำหนักประมาณ 5,500 กิโลกรัม ส่งมอบให้กับด่านศุลกากร จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป