สังคม
‘แม่แตงโม’ พลิกเชื่อเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง หลังเห็นหลักฐานจาก ‘อัจฉริยะ’ ให้ทีมเต้ดูแลกฎหมาย
โดย chutikan_o
27 พ.ค. 2565
197 views
‘เต้ - อัจฉริยะ – คุณแม่’ แถลงข่าวคดี ‘แตงโม’ แม่เชื่อเป็นฆาตกรรมอำพรางครั้งแรก ร้องไห้ทวงคืนความยุติธรรมให้ลูก ให้ทีมเต้ดูแลกฎหมาย ด้านอัจฉริยะให้ดูหลักฐานสำคัญทำให้แม่เข้าใจ ปฏิเสธร่วมมือ ‘บังแจ็ค’ เดินหน้าพิสูจน์หลักฐานใหม่
วันที่ 27 พ.ค. 2565 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม นิดา พัชระวีรพงศ์ ร่วมแถลงข่าวเรื่อง การดำเนินคดีฆาตกรรมของแตงโม
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงการดำเนินคดีครั้งต่อไปว่าจะมีใครบ้าง เบื้องต้นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ คือ มงคลกิตติ์ และ อัจฉริยะ การสัมภาษณ์เรื่องกฎหมาย มอบให้ทนายอู๋ บัญชา สุชญา เป็นโฆษกประจำตัวคุณแม่ ในการดำเนินคดีครั้งนี้ เพื่อคืนความยุติธรรม ตามความเป็นจริง และตามความรู้สึกของคนเสียหายคือแม่แตงโม และจะช่วยกันส่งเสริมปฏิรูป ร่าง พ.ร.บ.สืบสวนคดีอาญา และ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานทนายรัฐ สำหรับคดีนี้คงไม่ใช่อุบัติเหตุ จะดำเนินคดีตามประมวลกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 289 (7)
นางภนิดา อ่านแถลงการณ์ว่า คุณแม่มีความอัดอึดใจกับการเสียชีวิตของลูกสาวคนเดียวของคุณแม่ ลึกๆ คุณแม่เจ็บปวดชอกช้ำแค่ไหน ทุกวันนี้ยังคิดถึงลูก ถึงเวลาแล้วที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้ลูกสาวคุณแม่ คุณแม่ต้องการให้ลูกได้รับความยุติธรรมตามความจริงอย่างถึงที่สุด แม่เชื่อว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่เชื่อว่าเสียชีวิตด้วยการฆาตกรรมอำพราง โดยได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย จากท่านส.ส.เต้ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ด้วยอัจฉริยะ และคนอื่นๆ
คุณแม่เสียเวลาไปจริงๆ 3 เดือน ตอนนี้จะลุกขึ้นมาสู้ด้วยความถูกต้อง สู้เพื่อลูก ที่ผ่านมา แม่เก็บหลักฐานเองไม่ได้บอกใคร ถ้าแม่ไม่ช่วยลูก แม่จะไม่ผอมแบบนี้ น้ำหนักลงไป 7 กก. แม่ตอบคำถามสื่อมวลชนที่โทรศัพท์มาหาแม่เป็น 20 สายทั้งหมด ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น อย่ามองคุณแม่ผิดตั้งแต่นี้ต่อไป ขอความกรุณาให้ข่าวคุณแม่ในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าบิดเบือน แม่ต้องการหาสาเหตุการฆาตกรรม เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ขอความกรุณาสื่อมวลชนช่วยหาหลักฐานให้คุณแม่บ้าง จะได้ลดทอนความยุ่งยากให้คุณแม่ เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้คดีอื่นๆ ต่อไป 3 เดือนที่ผ่านมา แตงโมโดนหมกเม็ดอยู่ตรงไหน ข้อเท็จจริงยังไม่เคยเปิดเผย สื่อก็รู้ แต่ปกปิดไม่เคยบอก หลังจากนี้จะต้องพูดเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากคุณแม่อย่างเป็นทางการและชอบด้วยกฎหมาย พร้อมกับทนาย อีกทั้งยังเห็นชอบด้วยกฎหมายในการใช้สิทธิ์ฟ้องร้องคนบนเรือทั้งหมด ผมได้ให้หลักฐานบางส่วนให้คุณแม่ดู เชื่อว่าแม่เข้าใจที่ผมทำเรื่องของการฆาตกรรมอำพราง ที่มาจุดนี้ได้ส่วนหนึ่งเพราะพี่ๆ สื่อมวลชนช่วยผลักดัน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ จะมีการพิสูจน์เรือใหม่ ฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพราง เชิญท่านอดีตผู้พิพากษา ศาลฎีกา มาร่วมในการร่างคำฟ้อง คดีฆาตกรรมอำพราง โดยมีผู้เชี่ยวชาญ 15 คนทุกสาขา ทั้งผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงหมอพรทิพย์ พิสูจน์บาดแผลก้างปลา ที่ไม่ได้ตกท้ายเรือ ซึ่งจะเป็นจุดตกสำคัญ เพื่อดูว่าคดีนี้เกิดอะไรขึ้น ต่อมานายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ พิสูจน์บาดแผลขาข้างขวา และบาดแผลอื่นๆ ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ที่แน่ๆ ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน ต่อมาผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ยืนยันได้ว่าไม่ได้ตกท้ายเรือ ผู้เชี่ยวชาญระบบ GPS ก็จะพิสูจน์เรื่องของข้อมูลเทคโนโลยีต่าง แล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านแสงและเงา และอื่นๆ
ที่ผ่านมา คุณแม่เสียเวลาไปเยอะแล้ว สิ่งที่เรารอคอยมาในการที่ทำให้ยอมรับว่าคดีนี้นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ จากการนั่งปัสสาวะท้ายเรือ อะไรที่ทำได้เราจะทำทันที โดยเฉพาะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ส.ส.เต้ จะมีหน้าที่ดูแลเรื่องของคุณแม่ ในเรื่องของการข้อเอกสารทางราชการ และในการพิจารณาต่างๆ จะไม่ปิดกั้น ให้คุณแม่ดูทุกขั้นตอน โปร่งใส
เรียนให้สื่อมวลชนทราบว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานในการรวบรวมเอกสาร วันจันทร์หน้า (30 พ.ค. 65) จะใช้โดรนใต้น้ำสำรวจ หาวัตถุพยานสำคัญ เป็นใช้โดรนใต้น้ำครั้งแรกในคดีแตงโมและในประเทศไทย ใช้เครื่องสแกน เพื่อหาแก้วที่ทิ้งไป และร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจคราบเลือดบนเรือใหม่ ซึ่งต้องทำตอนกลางคืน แล้วปิดไฟ เพราะกลางวันมองไม่เห็นคราบเลือด ตรวจครั้งที่แล้วแปลกที่ตรวจคราบเลือดตอนกลางวัน ได้สงสัยเรื่องนี้มาตลอด หลังจากนี้พิสูจน์ได้ว่าจะเห็นอะไรมากมาย จะเห็นว่าไม่ใช่การประมาท โดยจะใช้นิติเวชเป็นหลัก และอาทิตย์หน้าจะมีการดำเนินคดีทางกฎหมาย ถ้าปล่อยพยานเท็จ ทำให้คดีเกิดความเสียหาย พยานปรุงแต่ง แต่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์จริง
ส่วนประเด็นเรื่องการส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ได้นัดกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ให้ไปสัมภาษณ์วันที่ 2 มิ.ย. 2565 จะมีแถลงข่าวและขอปฏิเสธกรณีที่หาว่าผมร่วมมือกับบังแจ็ค แบบที่ทนายคนดังกล่าวหาตลอด ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ เพราะคุณแม่โดนโจมตีอย่างหนัก
บอกได้เบื้องต้นว่า กำลังให้เขากู้ภาพอยู่ เหตุผลที่ให้กู้เพราะมีการลบภาพ 550 กว่าภาพ และคลิปวิดีโอ 2 คลิปไป เขาบอกว่าจะเอามาคืน แต่เราไม่สามารถควบคุมเขาได้หรอก แต่ว่าวันที่ 2 มิ.ย. จะใช้สิทธิ์ในฐานะพยานให้กับคุณแม่ก่อน แล้วก็รอดูว่าเขากู้ได้แล้ว 400 กว่าภาพจริงหรือไม่ ซึ่ง 550 ภาพ กับคลิปวิดีโอ 2 คลิปที่ถูกลบ ตำรวจไม่เคยบอกเลย เขาบอกว่าเขาเลือกลบเพราะภาพไม่สวย วันที่ 2 มิ.ย. คุณแม่ตอบแน่นอน คุณแม่ยังทำใจไม่ได้ ร้องเพลงก็ยังผิดเลย ขอให้เข้าใจว่าแม่มีเหตุผล และในสถานการณ์นั้นแม่ถูกปิดกั้นทุกอย่าง ให้เวลาคุณแม่หน่อย จะได้ทวงถามบังแจ็คด้วยว่าเมื่อไรจะเอาคืนให้ กู้ได้หรือเปล่า ไม่ได้ก็ต้องเอาคืนมา
ในระหว่างกลางแถลงข่าว คุณแม่ร่ำไห้และได้กล่าวอีกว่า ขอโทษนะคะ คุณแม่ร้องไห้ ลูกแม่หายไปตอน 4 ทุ่ม ไม่มีใครบอกคุณแม่เลยว่าลูกหายไป ทำไมไม่บอกคุณแม่ คุณแม่มั่นใจในทีมของท่าน ส.ส.เต้ มีทั้งทนาย ที่ปรึกษาที่มีความสามารถ อีกทั้งอัจฉริยะก็เก็บหลักฐานไว้เยอะมาก เยอะจนสงสาร ก่อนหน้านี้ได้ขอเบอร์อัจฉริยะเพื่อที่จะขอบคุณ เพราะเห็นว่าทำเพื่อแตงโมจริงๆ แต่ทนายเดชาไม่ให้คุย บอกคุณแม่อย่าโทร จะหาทางลงไม่เจอ ตอนนั้นเลยไม่ได้คุยกับอัจฉริยะ แต่พอได้เจอก็ดีใจที่ได้เจอกับอัจฉริยะตัวจริง
ผู้สื่อข่าวถามถึงทนายเดชา คุณแม่ตอบว่า ยังเป็นเพื่อนกัน แต่แกชอบแขวะคุณแม่ คงคิดถึงคุณแม่แหละ ก็ยังรักทนายเดชา ส่วนเรื่องที่แม่เทมา 2 ทนายแล้ว แม่ไม่อยากกล่าวหาใคร คนน่าจะรู้ดีว่าทนายที่คุณแม่เทเป็นอย่างไร แต่อย่างลุงอัจฉริยะเขามีข้อมูลเพียบ จะเทได้อย่างไร อีกทั้งคนที่เข้ามาช่วยคนอื่นๆ ยังมีหลักฐานแน่นมาก ที่จะสามารถช่วยแม่ได้