ผู้เสียหายเปิดใจอยากให้น.ส.นฤมล กลับมาเครียปัญหา

เมื่อเวลา12.00น.วันที่24เม.ย.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปผู้เสียรายหนึ่ง นามสมมุติชื่อ น.ส.เอ ที่ อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายถูกน.ส.นฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ให้ร่วมลงทุนสูญเงินไปกว่า1,500,000บาท ซึ่งน.ส.เอ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าได้รู้จักกับน.ส.นฤมล จากการการขายของออนไลน์ โดยน.ส.นฤมล ได้ชักชวนมาร่วมลงทุนโดยได้อ้างว่าเป็นผู้ดูแลกองทุนหมู่บ้าน โดยมีโครงการต่างๆไม่ว่าจะเป็นโครงการเลี้ยงวัว เลี้ยงหมู ซึ่งที่ตนทราบมาก็คือตามหมู่บ้านต่างๆก็จะมีโครงการแบบนี้ จึงได้เชื่อและลงเงินไปเริ่มแรกไม่กี่แสนบาทและลงทุนต่อเรื่อยๆจนมียอดสะสมอยู่ที่า1,500,000บาท

โดยตนเองได้ไปชวนเพื่อมาร่วมลงทุนอีก2คนเนื่องจากที่ผ่านมาตนได้ผลตอบแทนดีนะ โดยน.ส.นฤมล จะเสนอมาว่ารอบนี้ลงทุนเท่านี้จะได้ผลตอบแทบ2-3เปอร์เซน ทำให้ลงเชื่อซึ่งน.ส.นฤมล จะบอกว่าเค้าดูแลกองทุนอยู่หลายหมู่บ้านและรับทำบัญชี โดยจะเสนอว่ารอบนี้มีกองทุนอันนี้มานะพี่จะลงทุนเพิ่มมั้ย สำหรับระยะเวลาที่จะได้ผลตอบแทนจะอยู่ที่15-20วัน ซึ่งตั่งแต่ลงทุนมาได้นำเงินไปลงทุนแล้ว5รอบ สำหรับเงินที่ใช้ทั้งลงทุนและผลตอบแทนจะใช้วิธีโอนผ่านแอปธนาคาร และหลังจากที่น.ส.นฤมล และครอบครัวได้เดินทางไปประเทศตรุกี ตนรู้สึกงงมากเพราะที่ผ่านมาเค้าจะเป็นคนตรงเวลามากบางที่ยังโอนคืนมาให้ก่อนด้วยซ้ำ

สำหรับการที่เค้าเดินทางไปประเทศตุรกี ตนคิดว่าน่าจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งมีการขายรถและได้โอกาศได้พูดคุยกับน้องสาวของนายนิรุตน์ ว่าที่ให้ไปรับรถเก๋งมานั้นจะไม่อยู่หลายวัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าทางครอบครัวน่ารู้เรื่องที่นายนิรุตน์ และน.ส.นฤมล ได้เข้ามาทำกองทุน ซึ่งตนมาเอะใจและเดินเข้าแจ้งความที่สภ.บ้านด่านลานหอย ในวันที่มีการไลน์ขายรถปิกอัฟ ซึ่งตอนแรกไม่ทราบว่ามีการประกาศตามหาครอบครัวนายนิรุตน์ จนเพื่อที่ร่วมลงทุนได้ทักมาหาซึ่งยังคิดว่าลวงเราหรือเปล่า ซึ่งผู้เสียหายในอ.บ้านด่านลานหอย นั้นไม่ทราบว่ามีใครบ้าง ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่น.ส.นฤมล ได้ทำแบบนี้ซึ่งอยากให้เดินทางกลับมาและเครียปัญหาไม่อยากให้หนีปัญหา ซึ่งตนได้แจ้งความไว้2ข้อคือหมิ่นประมาทโดยเค้าไปแอบอ้างมาตนเองเป็นผู้ดูแลกองทุนหมู่บ้านของอำเภอบ้านด่านลานหอย และอีกหนึ่งข้อหาคือฉ้อโกง