ชาวบ้านผวา โจรขมังเวทย์ ขโมยกระดูกคนตายในป่าช้า เชื่อเป็นกลุ่มเล่นคุณไสยมือใหม่

ผวา โจรขมังเวทย์ ขโมยกระดูกคนตาย ชาวบ้านวอนเป็นสิ่งสุดท้ายของคนตายที่เหลือไว้ เชื่อเป็นขโมยกลุ่มเล่นคุณไสยมือใหม่ วอนตำรวจเร่งจับกุม

ที่บริเวณป่าช้าท่าใหญ่ ม.1 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำผู้สื่อข่าวลงไปดูบัวสำหรับใส่โกศซึ่งเป็นที่เก็บกระดูกของญาติพี่น้องบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และถูกโจรใจบาปมาขโมยกระดูกคนตาย โดยใช้ของแข็งทุบด้านหลังของบัวแล้วนำกระดูกคนตายที่อยู่ในโกศออกไป ทิ้งโกศไว้ให้ญาติดูต่างหน้าแทน โดยเชื่อว่านำไปทำสิ่งไม่ดี หรือคุณไสย ต่างรู้สึกไม่สบายใจเป็นห่วงวิญญาณที่อาจถูกนำไปใช้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด เตรียมเข้าแจ้งความที่สภ.ละงู

นายศิล หลีกัง อายุ 81 ปี บ้านเลขที่199 ม.1 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านและดูแลป่าช้าแห่งนี้มากว่า 40 ปี กล่าวว่าตนได้แวะมาดูแลป่าช้าแห่งนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.65 พบว่ามีบัวถูกทำลายโดยมีการทุบด้านหลังบัวแล้วล้วงเอาโกศออกมา ตอนแรกเข้าใจว่าขโมยโกศเพื่อนำทองเหลืองไปขาย แต่ปรากฏว่าโกศยังอยู่แต่ที่หายไปคือกระดูก และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ตนมาป่าช้าเพื่อเตรียมที่จะชักชวนเพื่อนบ้านมาพัฒนา เพราะวันที่ 12 เม.ย. 65 จะมีการทำบุญ ในบัวที่ไม่มีโกศก็จะห่อด้วยผ้าขาว ปรากฏว่ามีกระดูกหายไปจากบัวต่างๆประมาณ 7-9 บัว ตั้งแต่มีป้าช้าแห่งนี้ชาวบ้านไม่เคยพบการกระทำเช่นนี้มาก่อน ก็ไม่รู้ว่าที่มาขโมยกระดูกคนตายไปนั้นต้องการนำไปเพื่ออะไรกันแน่ เป็นการรบกวนคนตาย ชาวบ้านคิดกันว่าจะหากล้องวงจรปิดมาติดตั้ง และทำรั้วกั้นอย่างน้อยคนร้ายที่ขโมยจะได้เข้ามายากขึ้น

ด้าน ร.ต.ท. บุญเหิม แก้วทอง ข้าราชการบำนาญ ซึ่งกระดูกญาติถูกขโมยหายไป กล่าวว่า กระดูกของน้าสาวถูกขโมยไปเช่นกัน กระดูกนี้เป็นศุนย์รวมจิตใจของลูกหลานทุกคน อยากให้ญาติๆทุกคนได้สอดส่องดูแลบัวของญาติพี่น้องด้วยเพราะขโมยอาจจะไปที่อื่นเมื่อทางนี้รู้ตัวแล้ว วิธีการคนร้ายจะทุบด้านหลังบัวแล้วล้วงเอากระดูกไป น่าแปลกที่ไม่ยอมเอาโกศไปแต่เอาเฉพาะกระดูกเท่านั้น รู้สึกเสียใจมาก ครั้งแรกมา 25 มี.ค. ครั้งสุดท้ายวันที่ 7 เม.ย. 65 รวมแล้วที่ขโมยกระดูกไป 9 บัวแล้ว รู้สึกโกรธ เพราะเอากระดูกญาติเราไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรอาจเอาไปทำคุณไสย เอาไปทำของไม่ดี คนตายไม่สงบ กลัวว่าวิญญาณญาติจะถูกนำไปใช้ในทางไม่ดี ตนจะไปแจ้งความ

กระดูกบรรพบุรุษเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนตายไปแล้ว มีกระดูกเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ ก็ไม่อยากให้ใครเอาไปทำอะไร ตอนนี้ชาวบ้านได้ร่วมกันคิดว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่อาจลำบากในช่วงกลางคืน ส่วนกระดูกที่ใส่ในบัวนั้นก็จะประชาสัมพันธ์ให้ฝังดินไปเลยจะได้ไม่ถูกขโมยแบบนี้ สำหรับป่าช้าท่าใหญ่แห่งนี้ชาวบ้านจะร่วมกันพัฒนาปีละ 1 ครั้งแต่หลังจากนี้คงต้องเข้ามาดูแลให้บ่อยขึ้นอย่างน้อยเป็นการป้องปรามคนร้ายที่เข้ามาขโมยกระดูก ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเป็นพวกมือใหม่ที่ศึกษาเรื่องคุณไสยเพราะจะนำกระดูกคนตายไปใช้อย่างอื่นนั้นคิดไม่ออกเหมือนกัน