สังคม

โจรสาวบุกเดี่ยวชิงทอง สารภาพหมุนเงินไม่ทัน หากย้อนเวลาได้จะไม่ทำแบบนี้

โดย passamon_a

26 มี.ค. 2565

2.5K views

เกาะสมุย โจรสาวบุกเดี่ยวชิงทอง จับได้สารภาพหมุนเงินไม่ทัน หากย้อนเวลาได้จะไม่ทำแบบนี้


คลิปขณะโจรสาว อายุ 27 ปี ซิ่งรถจักรยานยนต์ไปจอดหน้าร้านทอง ก่อนบุกเดี่ยวเข้าไปทำทีขอดูสร้อยทองคำ น้ำหนัก 1 บาท เมื่อเจ้าของร้านส่งสร้อยทองคำให้ โจรสาวกำสร้อยทองติดมือวิ่งหนีออกจากร้าน สตาร์ทรถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ก่อเหตุได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ไปไม่รอด เมื่อตำรวจติดตามไปจับกุมไว้ได้ สารภาพเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ไม่มีลูกค้า หมุนเงินไม่ทัน จึงได้ก่อเหตุ  


เมื่อช่วงเย็น วันที่ 25 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่าเกิดเหตุคนร้ายเป็นหญิงสาว บุกเดี่ยวเข้าไปชิงสร้อยข้อมือทองคำ ภายในห้างทองฉัตรทิพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 76/14 ริมถนนสายรอบเกาะสมุย หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จึงได้นำกำลัง เดินทางไปตรวจสอบ


พบ นายกฤษณะ วานิชชานนท์ เจ้าของร้าน ยืนตกใจกับเหตุการณ์ พร้อมเล่าเให้กับเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. ก่อนที่ร้านจะปิด ได้มีคนร้ายเป็นหญิงสาว ผมยาว สวมกางเกงขายาวสีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีขาว แถบเขียว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว และมีหน้ากากอนามัยสีดำปิดจมูกและปาก ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน เข้ามาทำทีขอเลือกดูสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท เมื่อทางเจ้าของร้านส่งสร้อยให้ หญิงสาวได้คว้าสร้อยวิ่งออกไปนอกร้าน สตาร์ทรถจักรยานยนต์หลบหนี ไปทางหาดเฉวง ซึ่งหลังก่อเหตุตนพร้อมกับลูกสาวได้วิ่งติดตามแต่ไม่ทัน


ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก. สั่งกำชับกำลังตำรวจใช้แผนเผชิญเหตุ ติดตามคนร้าย โดยพบว่าคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊ก สีแดงดำ ทะเบียน คตท 456 สุราษฎร์ธานี ในการก่อเหตุ


ต่อมาเวลา 20.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวนที่ได้เเกะรอยคนร้ายทุกเส้นทาง และพบว่าคนร้านได้ขับรถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปทางหาดเฉวง และต่อมาพบว่าคนร้านได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลสมุย และขับรถไปทางสายวัดสว่างอารมณ์ และกล้องวงจรปิดบันทึกเส้นทางคนร้ายได้ ไปหมดที่บริเวณร้านเอสแอนด์เอฟแฟชั่น ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบ


และพบหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ในร้าน ลักษณะตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทอง จึงได้ทำการสอบถาม และพบพิรุธจากหญิงสาว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้คาดคั้น ในที่สุด ทราบชื่อ น.ส.ศิริพร สมสอง อายุ 27 ปี ซึ่งพบว่า น.ส.ศิริพร ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดสีแดง ตรวจสอบภายร้านพบเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด พร้อมรถจักรยานยนต์จอดอยู่หน้าร้าน ตรวจค้นในตัวพบเงินสดจำนวน 28,740 บาท จึงได้ยึดของกลางไว้ทั้งหมด เพื่อเป็นหลักฐาน พร้อมได้ทำการควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.บ่อผุด


ในเบื้องต้นจากการสอบปากคำ น.ส.ศิริพร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นแม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น และหมดเงินลงทุน หมุนเงินไม่ทัน จึงคิดไม่ตก จึงได้นำเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนสวมใส่ หลักก่อเหตุ พร้อมวางแผนในการหลบหนี และหลังก่อเหตุ ได้นำสร้อยข้อมือทองคำ ไปขายที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล สมุย โดยได้เงินจำนวน 28,740 บาท จริง


น.ส.ศิริพร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เตรียมการเอาไว้ เนื่องจากหมุนเงินไม่ทันจริง ๆ และลงมือทำคนเดียว หลังก่อเหตุนำทองไปขาย ได้เงินมาจำนวน 28,740 บาท จากนั้นนำเงินไปไถ่โทรศัพท์มือถือที่จำนำไว้จำนวนหนึ่ง โดยหลังจากก่อเหตุ และถูกจับกุม พร้อมสำนึกผิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด พร้อมอยากขอโทษกับทางเจ้าของร้านทอง ที่ทำลงไปเพราะขัดสนเรื่องเงินจริง ๆ


ขณะเดียวกัน นายกฤษณะ วานิชชานนท์ เจ้าของห้างทองฉัตรทิพย์ หลังทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จับกมุคนร้านที่ก่อเหตุชิงทองได้เเล้ว ได้เดินทางมาดูโฉมหน้าคนร้าย พร้อมซักถามผู้ต้องหา ว่าก่อเหตุทำไม ทำให้ น.ส.ศิริพร ยกมือไหว้ขอโทษ และก้มลงกราบเจ้าของห้างทอง


ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เเจ้งข้อกล่าวหา ต่อ น.ส.ศิริพร ในข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม หรือ รับของโจร พร้อมส่งดำเนินคดีต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News