“ไทยสร้างไทย” แนะ กองสลากฯ เร่งหาทางออก ช่วยกลุ่มผู้ค้าสลากเสรี

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ดร.เกณิกา ตาปสนันทน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตบางบอน-หนองแขม เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาที่กองสลากฯ เพื่อรับฟังปัญหา ของผู้ค้าสลากเสรี ที่กองสลากฯ ซึ่งมีผู้ชุมนุมราว 3,000 คน หลังได้รับการร้องเรียน จากนายสำอางค์  ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศ ไทย ผ่านเพจ ดร.ผึ้ง เกณิกา - Dr.Kenikaว่า ขณะนี้มีผู้ค้าสลากเสรีได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการขายสลากฯผ่านแอป “เป๋าตัง” โดยมีผู้ค้าหลากหลายกลุ่มที่มาจากทั่วประเทศ รวมถึงผู้สูงอายุ และคนพิการ

โดยดร.เกณิกา เห็นว่า “ผู้ค้าสลากเสรี ถือเป็นกลุ่มคนตัวเล็ก ที่พรรคไทยสร้างไทยมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ ด้วยการปลดปล่อย หรือขจัดปัญหาและอุปสรรคในการทำมาหากิน ให้คนตัวเล็กทำมาหากินได้ง่ายขึ้น จึงขอส่งเสียงฝากไปยังรัฐบาลให้ฟังเสียงประชาชนที่เดือดร้อน เช่น กลุ่มผู้ค้าสลากเสรี สะท้อนว่า ปัจจุบัน ทำหากินลำบากมากพอแล้ว ยังต้องมาแบกรับภาระ ค่าใช้จ่ายสร้างความยุ่งยาก ในการเติมอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะหลายคนเป็นผู้สูงอายุ ยังมีโทรศัพท์รุ่นธรรมดาที่ไม่รองรับอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ และต้องไปหาซื้อโทรศัพท์ใหม่โดยไม่จำเป็น

ขณะที่ผู้ซื้อสลากก็น้อยลง คนเข้าไม่ถึงแอปก็มีอีกมาก ไหนจะต้องมารอเงินเข้าจากรัฐบาลอีก จึงมองไม่เห็นความคุ้มค่าที่จะเพิ่มภาระตรงนี้ หากขายไม่หมด และต้องรับสภาพขาดทุนไว้เอง

ดังนั้นจากการรับฟังปัญหา รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขคือการสร้างความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อหน่วยงานรัฐ เพราะแม้แต่การประชุมยังขอให้ตนขึ้นไปเป็นตัวแทน ดูว่ายังมีการประชุมจริงหรือไม่ เพื่อกลับลงมายืนยัน ซึ่งสะท้อนการทำงานที่ล้มเหลวและสุดท้ายก็หนีกลับไม่เจรจากับคนที่เดือดร้อนจนจบได้  ทำให้ท้ายที่สุดกลุ่มผู้ค้า ต้องเคลื่อนตัวมาปิดถนนหน้ากองสลากอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตามตนขอเรียกร้องให้กองสลาก รับฟังความเห็นและข้อเสนอจากทางกลุ่มผู้ค้าสลากเสรี เพราะมองว่าหากยังสองมาตราฐาน จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ต้องเร่งทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกันในการค้าสลาก จึงจะเป็นทางออก และคลี่คลายเรื่องดังกล่าวได้ ไม่เช่นนั้น เชื่อว่าพี่น้องกลุ่มผู้ค้าสลากเสรี อาจพิจารณายื่นร้องต่อศาลปกครอง ให้คุ้มครองต่อไป

ดร.เกณิกา เปิดเผยด้วยว่า กลุ่มผู้ค้าเสรีจำนวนหนึ่งยังได้กล่าวขอบคุณ ประธานพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่าให้ความสำคัญกับคนทำมาหากิน และเป็นเพียงพรรคการเมืองเดียวที่ส่งตัวแทนมารับฟังปัญหา ในวันที่คนตัวเล็กกำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะจากการประกอบอาชีพที่หน่วยงานภาครัฐไม่เข้าใจ ปัญหาที่แท้จริงและพยายามออกแบบกติกาเงื่อนไขต่างๆมากำกับควบคุม