อาชญากรรม

สั่งประหาร 'บังรี' ฆ่าแหม่มสวิส คาน้ำตกโตนอ่าวยน แต่สารภาพลดโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต

โดย thichaphat_d

16 มี.ค. 2565

120 views

ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษาประหารชีวิต บังรี ผู้ต้องหากระทำอนาจาร ฆ่า และซ่อนเร้นศพ หญิงสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่น้ำตกโตนอ่าวยน จังหวัดภูเก็ต ช่วงก่อเหตุเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จำเลยเสพยาบ้าและกัญชา จำเลยสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ให้จำคุกตลอดชีวิต

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มี.ค.65 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ย 2121/2564 หมายเลขแดงที่ ย 159/2565 พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นโจทก์ นายธีรวัฒน์ หรือบังฟารี หรือ บังรี ท่อทิพย์ จำเลยคดีความผิดต่อชีวิต ลักทรัพย์ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เสพ คดีนี้พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่า

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 เวลากลางวัน จำเลยกระทำอนาจารนางนิโคล ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลอายุกว่า 15 ปี พยายามข่มขืนกระทำชำเราและฆ่านางนิโคล แล้วซ่อนเร้นศพของผู้ตายด้วยการนำพลาสติกสีดำมาปิดคลุมศพ และลักเอาเงิน 300 บาท ซึ่งอยู่ในกระเป๋าของผู้ตายไป และข้อหาจำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนและเสพกัญชา จำเลยให้การรับสารภาพ

โดยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64 ก่อนเกิดเหตุจำเลยขึ้นไปบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อไปหากล้วยไม้หรือพันธุ์ไม้ป่า ขณะเดินลงมาเห็นผู้ตาย ซึ่งเป็นหญิงรูปร่างผอมบางผิวขาว ใส่เสื้อกล้าม สวมกางเกงขาสั้นนั่งเอาเท้าแช่น้ำอยู่ที่บริเวณลำธารน้ำตกอ่าวยน จำเลยเกิดอารมณ์ทางเพศ ตั้งใจจะกระทำชำเราผู้ตาย จึงเดินเข้าไปใช้ท่อนแขนล็อคคอผู้ตาย

เมื่อผู้ตายดิ้นรนต่อสู้ จำเลยและผู้ตายตกไปในลำธาร ผู้ตายพยายามดิ้นรนต่อสู้ จำเลยจึงใช้ท่อนแขนรัดคอผู้ตายอย่างแรง แล้วจับผู้ตายกดศีรษะคว่ำหน้าในลำธาร เมื่อผู้ตายหมดสติ จำเลยลากผู้ตายขึ้นมาบริเวณริมฝั่งแล้วถอดกางเกงขาสั้นและกางเกงชั้นในของผู้ตายออก

เมื่อจำเลยพลิกตัวผู้ตายให้นอนหงายเห็นผู้ตายหน้าเขียวคล้ำลิ้นจุกปาก จำเลยหมดอารมณ์ทางเพศ จำเลยจึงเอาผ้าพลาสติกสีดำ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมาคลุมตัวผู้ตายแล้วเอาก้อนหินทับไว้ แล้วค้นกระเป๋าของผู้ตายเอาเงิน 300 บาทของผู้ตายไป

ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าการที่จำเลยใช้แขนล็อคคอผู้ตายทางด้านหลัง เพื่อไม่ใช้ผู้ตายขัดขืนให้ จำเลยกระทำชำเราผู้ตายดิ้นรนต่อสู้ กระทั่งจำเลยตกลงไปในลำธาร จำเลยยังใช้แขนรัดคอผู้ตายและกดศีรษะผู้ตายลงไปในน้ำจนมิด จนผู้ตายหมดสติ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย

จึงถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 288,334 ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104,162 ฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิต จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(2) ฐานฆ่าผู้อื่นให้จำคุกตลอดชีวิต เมื่อรวมทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ริบของกลาง ยกฟ้องข้อหาพยายามข่มขืนและข้อหากระทำอนาจาร

และในการอ่านคำพิพากษาเมื่อวานนี้ 15 มี.ค.ได้มี สามีผู้ตาย และบุตรชายผู้ตายอีก 2 คนร่วมฟังคำพิพากษาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านระบบประชุมทางจอภาพผ่านระบบ Google meet จากห้องพิจารณาของศาลจังหวัดภูเก็ต

และได้กล่าวขอบคุณศาลจังหวัดภูเก็ต พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตและเจ้าพนักงานตำรวจที่ช่วยกันสืบสวนจับกุมคนร้ายจนได้ตัวจำเลยมาลงโทษ และจังหวัดภูเก็ตที่อำนวยความสะดวกในการประสานงานติดต่อทางญาติของผู้ตาย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZoceZP3eVI4

คุณอาจสนใจ

Related News