ต่างประเทศ
อังกฤษเอาด้วย 'แบนน้ำมันรัสเซีย' ตามสหรัฐฯ ดันราคาน้ำมันปลีกพุ่งทำสถิติทันที
โดย nattachat_c
9 มี.ค. 2565
155 views
รัฐบาลอังกฤษประกาศ แบนการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศแบนไปแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษประกาศว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการลงโทษอาณาจักรของปูติน แต่อังกฤษจะพยายามหาทางไม่ให้การคว่ำบาตรนี้กระทบกับภาคธุรกิจนัก
นาย จอห์นสันกล่าวว่า อังกฤษพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซียน้อยกว่าชาติในยุโรป แต่อังกฤษก็ยังพึ่งพาน้ำมันดีเซลจากรัสเซียอยู่ ซึ่งจะต้องหาทางทดแทนส่วนที่หายไป โดยทางด้าน รัฐมนตรีพลังงานของอังกฤษระบุว่า อังกฤษจะเริ่มลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และผลิตภัณฑ์จากรัสเซีย เริ่มปลายปี 2022 นี้
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในอังกฤษพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ทันที ประชาชนแห่กันไปเติมน้ำมันตุนกันเป็นจำนวนมาก โดยราคาน้ำมันเบนซินพุ่งไปอยู่ที่ 1.5562 ปอนด์ ต่อลิตร (ประมาณ 67.91 บาท) ส่วนราคาน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 1.6128 ปอนด์ต่อลิตร (ราว 70.08 บาท) เป็นราคาสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ 1.8 ปอนด์ต่อลิตรอีกด้วย (ราว 78 บาท)
ขณะเดียวกัน ทางด้านสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยแผนการที่มีเป้าหมายคือ ลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียให้ได้ภายในปี 2573 และจะเริ่มลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย 2 ใน 3 ส่วน หรือราว 66% ในปีนี้ โดยจะมีการหารือเรื่องแผนการในการประชุมสุดยอดวาระฉุกเฉินของผู้นำ EU ที่ฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดีนี้
นางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในแถลงการณ์ว่า ยุโรปต้องเป็นอิสระจากน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ จากรัสเซีย ซึ่งเราไม่สามารถพึ่งพาซัพพลายเออร์ที่เป็นภัยคุกคามต่อเราอย่างชัดเจนได้
ทั้งนี้ ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ พึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียราว 40% ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมดในแต่ละปี นอกจากนั้นยังพึ่งพาน้ำมันประมาณ 27% และถ่านหินอีก 46% ด้วย สร้างรายได้ให้รัสเซียปีละหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมอสโกยังถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ให้หลายประเทศทั่วโลกด้วย