ทูตออสเตรเลีย เชื่อ 'เชน วอร์น' อดีตนักคริกเก็ต เสียชีวิตโรคประจำตัว

ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ เชน วอร์น อายุ 53 ปี อดีตนักกีฬาคริกเก็ต และกัปตันทีมชาติออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักขว้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันคริกเก็ต ถูกพบว่าเสียชีวิตขณะเข้าพักในวิลล่าหรู บนเกาะสมุย ซึ่ง เชน วอร์น มาพักผ่อนกับเพื่อนชาวต่างชาติ


แต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 4 มี.ค.65 เพื่อนเข้าไปหา เชน วอร์น ในห้องพัก ซึ่งนอนคนเดียว พบว่า เชน วอร์น นอนหลับอยู่ ปลุกไม่ตื่น และไม่มีการตอบสนองใด ๆ จึงเรียกเพื่อนอีกคนมาทำ CPR และเรียกรถพยาบาล


เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ ได้พยายามทำ CPR และประสานโรงพยาบาลไทยอินเตอร์เนชั่นแนล สมุย มารับพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉิน แต่เจ้าหน้าที่พบว่า การทำ CPR ไม่มีการตอบสนอง และพบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจ และส่งศพชันสูตร ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ


เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) อัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ แมทธิว บาร์เคลย์ กงสุลใหญ่ออสเตรเลียประจำภูเก็ต ได้เข้าประชุมร่วมกับตำรวจ สภ.บ่อผุด เพื่อฟังสรุปการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ เชน วอร์น


โดย พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผู้กำกับการ สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า จากการชันสูตรเบื้องต้นของโรงพยาบาลเกาะสมุย ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย แต่ในวันนี้ (6 มี.ค.) จะส่งไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต และทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว หอบหืด และมีประวัติพบว่าเป็นโรคหัวใจ นอกจากนี้ ญาติที่ประเทศออสเตรเลีย ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ขณะที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย ผู้เสียชีวิตมีอาการแน่นหน้าอกด้วย ส่วนตรวจสอบภายในห้องพักที่เกิดเหตุ ไม่พบยาเสพติดใด ๆ และไม่พบประเด็นการเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำ


โดยตำรวจได้อธิบายขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน ข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด ซึ่งเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณ และบอกว่า รู้สึกพึงพอใจการทำงานของตำรวจไทยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดความเชื่อมั่น คลี่คลาย ว่าการเสียชีวิตเกิดจากโรคประจำตัว พร้อมจะแจ้งให้ทางญาติผู้เสียชีวิตรับทราบต่อไป


โดยหลังจากชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานีเสร็จแล้ว จะประสานกับญาติผ่านสถานทูต เพื่อส่งศพกลับประเทศออสเตรเลียและทำพิธีเชิดชูเกียรติแก่ เชน วอร์นด้วย เพราะเป็นบุคคลสำคัญของออสเตรเลีย