ย้อนเส้นทางชีวิต 'คิงส์ นนทบุรี' พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ก่อนศาลสั่งประหารชีวิต

จากการขยายผลจับเครือข่ายค้ายาเสพติด ของนายพิทวัส แสงโสภา หรือ คิงส์ นนทบุรี และพรรคพวก รวม 6 คน ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ในที่สุด ได้พยานหลักฐานจนนำไปสู่การจับกุมระดับสั่งการ ซึ่งมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกัน และมีขบวนการรับฟอกเงิน โดยแปรงเป็นสินค้า และน้ำมันส่งออกนอกประเทศ เส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึง ผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกวุฒิสภา ของทหารยศพลเอกคนหนึ่ง



โดยสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกอ้างถึง เปิดเผยว่าเมื่อ 2 ปีก่อนขาดผู้ชำนาญด้านกฎหมาย เมื่อมีผู้แนะนำมา จึงรับไว้ทำงาน และจ่ายเงินเดือนให้ทุกเดือน ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวกับยาเสพติด



คำตัดสินของศาล จ.ธัญบุรี ที่พิพากษาประหารชีวิตนายพิทวัส แฝงโสภา หรือ คิงส์ นนทบุรี อายุ 30 ปี หลังจากถูกตำรวจจับพร้อมของกลางเป็นไอซ์ 86 กิโลกรัม เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา พร้อมพรรคพวกอีก 1 คนที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต



นายพิทวัส หรือคิงส์ ใช้ชีวิตย่านชุมชนบางกระบือ บิดามีอาชีพเก็บเงินจากตู้ม้า โดยถูกติดต่อจากกลุ่มเครือข่ายให้มีหน้าที่กระจายยาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพฯและนนทบุรี โดยหาลูกน้อง ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น ทำให้กลุ่มลูกน้องที่ถูกจับชุดแรก มีอายุ 20 ต้นๆ



ขณะตำรวจเข้าจับกุมนายพิทวัส ได้ที่ห้างสรรพสินค้าย่านนนทบุรี นายคิงส์ อายุ 29 ปี มีทรัพย์สินเป็นเงินหมุนเวียนในบัญชี ที่ถูกอายัดขณะจับกุม 20 ล้านบาท และหลักฐานทางการเงินในบัญชีนี้เอง ที่ตำรวจสืบสวนนครบาล และปปส. พบว่ามีการติดต่อกับบุคคลหลายกลุ่ม พบข้อความเกี่ยวกับการติดต่อซื้อขายยาเสพติดและการชำระเงินค่ายาเสพติด โดยนายพิทวัส ชำระเงินค่ายาเสพติดไปที่บัญชีธนาคาร ที่อยู่ต่างประเทศ



จากเส้นทางการเงิน ทำให้พบกลุ่มของวรวัฒน์ จะเข้ามาทำหน้าที่เปลี่ยนเงินจากยาเสพติด เป็นสินค้าส่งน้ำมันส่งออก เพื่อฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด เส้นทางการเงินเฉพาะปี 2564 ปีเดียว มีการแปรสภาพซื้อมันน้ำส่งประเทศเพื่อนบ้านร่วม 500 ล้านบาท



แม้การเข้าจับกุมนายวรวัฒน์ ได้ที่บ้านพัก ในอ.ปราณบุรี จ.ประจวบ นายวรวัฒน์ให้การปฏิเสธ และเมื่อควบคุมตัวมาสอบสวน นายวรวัฒน์ อ้างว่า มีอาชีพเป็นเซลซ์ ขายน้ำมัน

โดยเปิดบริษัทชิปปิ้งส่งออกสินค้า ชื่อบริษัทลมปราณ ที่อ.แม่สาย มีนายเปี่ยมศักดิ์ บุญญชโลธร เป็นผู้ดูแล โดยเริ่มส่งน้ำมันไปพม่า ตั้งแต่ปี 2562 ส่วนที่มีอาวุธปืนไรเฟิลและปืนสั้น ร่วม 50กระบอก เพราะนิยมชมชอบในกีฬายิงปืน



นายวรวัฒน์ ซึ่งขณะถูกจับกุมดำรงตำแหน่งผู้ชำนาญการประจำของสมาชิกวุฒิสภาของทหารยศพลเอก ซึ่งพลเอกบุญธรรมที่ถูกอ้างถึงให้สัมภาษณ์ว่า มีผู้ชำนาญการประจำตัว 8 คน นายวรวัฒน์ เป็น 1 ในผู้ชำนาญการประจำตัว มาเป็นเวลา 2ปี โดยมีคนแนะนำมา ว่าเป็นนักธุรกิจค้าน้ำมัน เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพราะจบหลักสูตร ผู้ชำนาญศุลกากร ที่ผ่านมารับผิดชอบงานที่มอบหมายดี ไม่มีพฤติกรรมน่าสงสัยมาก่อน



แต่เมื่อช่วงต้นปีทราบว่านายวรวัฒน์ มีปัญหาเรืองส่งออกน้ำมัน ที่แม่สอด เพราะบัญชีถูกอายัด 4 บัญชี ซึ่ยังถามนายวรวัฒน์ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ หลังมีข่าวว่าถูกจับก็ได้สั่งปลดออกจากตำแหน่งแล้ว ยอมรับว่าตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายวรวัฒน์ จะเป็นคนรักครอบครัว ไม่เคยเห็นใช้จ่ายฟุ่มเฟือย



ส่วนประวัติของนายวรวัฒน์ มีภูมิลำเนาเกิดที่ จ.นนทบุรี แต่ไปเรียนหนังสือที่จ.สุราษฎร์ธานี โดยเรียนปริญญาตรีนิติศาสตร์ แต่ไม่จบจึงเปลี่ยนมาเรียนด้านเศรษฐศาสตร์