สธ.เตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วประเทศ งดรวมกลุ่ม-ไปที่เสี่ยง หลังผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น

ก.สาธารณสุข ประกาศเตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วไทย งดร่วมกิจกรรมรวมกลุ่ม –   ไปสถานที่เสี่ยง หลังผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งไม่หยุด


วันนี้ (21 ก.พ. 65) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงเหตุผล ความจำเป็นที่กระทรวงสาธารณสุขต้องยกระดับเตือนภัยจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 สืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากยอดผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น พร้อมคาดการณ์ว่า ในอีก 1-2 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อของไทยจะสูงขึ้น โดยการเตือนภัยในระดับ 4 ได้ขอให้ประชาชน งดเข้าสถานที่เสี่ยง, งดทานอาหารร่วมกัน-ดื่มสุราในร้าน, เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่นตลาด ห้าง, เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน, งดร่วมกิจกรรม, มาตรการทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50 , ร้อยละ 80 และชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หากจำเป็นใช้รถยนต์ส่วนตัว, เลี่ยงไปต่างประเทศ หากเข้าประเทศต้องปรับตัวในสถานที่



ขณะที่ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิดในไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและวัยเด็ก วัยเรียน ซึ่งถือว่า พุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจาก มีการผ่อนคลายในหลายมาตรการ ส่วนผู้ป่วยโควิด อาการหนัก ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือมีภาวะปอดอักเสบ พบมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมกว่า 800 ราย



ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและพบว่ายังมีกลุ่มที่ยังไม่ฉีดวัคซีน โควิด-19 เลย และบางส่วน ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ส่วนการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ร้อยละ 53 ไม่มีอาการป่วย



ขณะที่การติดเชื้อในเด็ก พบเพิ่มขึ้นมากสุดในเด็ก อายุ10-19 ปี  โดยทั่วโลก ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอน BA.2 แพร่เร็วกว่า สายพันธุ์ BA.1 กว่า 1.4 เท่า ซึ่งในไทยตอนนี้ BA.2 ระบาดไปแล้วกว่า ร้อยละ 50



ด้าน นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่อาการหนักไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนการครองเตียงทั่วประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 49 ซึ่งระบบสาธารณสุขรองรับได้ ส่วนสถานการณ์เตียงกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทุกสังกัด โดยกลุ่มสีเขียว มีผู้ครองเตียง อยู่ที่ 23,608 หรือร้อยละ 50.5 ทั้งนี้ การรักษาได้เปลี่ยนแล้ว โดยทุกรายไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ให้รักษาที่บ้านได้