สังคม

ยังไม่สำนึก! ขี่จยย.บนทางเท้า เจอสาวด่า ไม่พอใจชักอาวุธใส่ เผยขับบนทางเท้าเป็นเรื่องปกติ ใครๆก็ทำ

โดย kodchaporn_j

16 ก.พ. 2565

1.3K views

วันนี้ (16 ก.พ. 65) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ร.ต.ท. จิรายุ สายสุวรรณ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้ประสาน นางสาว ปรียานุช ปานเมือง ให้มาพบพนักงานสอบสวนและชี้ตัวคู่กรณี


ในเหตุการณ์มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และชักอาวุธมีด ข่มขู่ ผู้เสียหาย คือนางสาวปรียานุช ปานเมือง โดยคู่กรณี คือนาย สาโรจน์ แซ่อึ๊ง อายุ 42 ปี ในเบื้องต้น นายสาโรจน์ แซ่อึ๊ง ยอมรับว่าภาพในคลิปดังกล่าวเป็นตนจริง


โดยในวันที่เกิดเหตุ ตนขับรถผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีสภาพการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก และเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์คันอื่นขึ้นไปขับขี่บนทางเท้า เพื่อความรวดเร็ว ตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นตามและมองว่า บริเวณนั้นเป็นเรื่องปกติ ที่รถจักยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า


และเมื่อถึงหน้าบ้านของ นางสาวปรียานุช ต้นก็เห็นว่ามีคนกำลังเปิดประตู แต่ตนก็โยกหลบ และยอมรับว่าได้ยินคู่กรณี ตะโกนเป็นภาษาอังกฤษ คล้ายคำว่า ให้ของลับ  และตะโกนด่าทอท้าทาย ทำให้ตน ข้องใจ และจอดรถ เข้าไปถาม แต่เห็นชายเดินถือสิ่งของ ลักษณะเป็น กระบอง ตนจึงได้ชักอาวุธที่เป็นเหล็ก ขูดชาร์ปจากเอว เพื่อเป็นการป้องกันตัว



กระทั่งช่วงเช้า ของวันที่ 16 ก.พ. 65 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสน.คลองตัน โทรหาตนจึงได้มาพบพนักงานสอบสวน โดยในเบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถบนทางเท้า ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท และข้อหาพกพาอาวุธมีด เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 200 บาท


ส่วนนางสาว ปรียานุช ปานเมือง เมื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การขับรถบนฟุตบาท ด้วยความรวดเร็ว และยังชักอาวุธมีด ขึ้นมาข่มขู่ตอนนั้น โดนปรับ แค่ 1,200 บาท ถือว่า เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ถ้าวันนั้นตนโดนแทง หรือโดนทำร้าย ใครจะรับผิดชอบ


จึงยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่าง ให้กับผู้อื่นที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และมีอากับกิริยาก้าวร้าว รวมถึงการทำร้ายคนเดินบนทางเท้า



อย่างไรก็ตามนาย สาโรจน์ แซ่อึ๊ง มองเห็นว่า การขับขี่ รถจักรยานยนต์ บนทางเท้าในบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเรื่องปกติใครๆก็ทำกัน ไม่ควรจะมา ด่าว่ากล่าว ให้ของลับ กับตนเช่นนี้ตนจึงทนไม่ได้



นายสาโรจน์ แซ่อึ้ง มิได้สำนึก ว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำนั้นเป็นความผิด และไม่ได้ขอโทษผู้เสียหาย แต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ