สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 10 ก.พ.65 ร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า-รู้ตัวสาว เหยื่อฆ่าหั่นศพลอยน้ำ-อุทาหรณ์โรคขี้เต็มท้อง

โดย thichaphat_d

10 ก.พ. 2565

215 views

-พบชิ้นส่วนมนุษย์ ลอยอืดคลองบางกอกน้อย – คลองบางกอกใหญ่ ชิ้นส่วนอวัยวะกระจาย 4 จุด ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร มีรอยสักเก้ายอด / จิ้งจก / พระราหู ตำรวจ เชื่อ ถูกฆาตกรรม ลำคอมีร่องรอยหั่นด้วยของมีคม เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์

-ญาติแสดงตัว ยันศพนิรนามถูกฆ่าหั่นศพคือ หญิงวัย 28 ปี พบรูปพรรณตำหนิตรงกัน พบโพสต์สุดท้าย "สักวันคุณจะคิดถึงเรา" ก่อนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ชุดสืบสวนเชิญเพื่อนชายคนสนิทสอบปากคำ และลงพื้นที่หาวงจรปิดเพิ่ม

-สาวโพสต์คลิป ควักลูกตาปลอมลง TikTok แฉอดีตแฟน ทำร้ายจนตาบอด สุดท้ายไม่ติดคุก เพราะเป็นเยาวชน แถมเบี้ยวไม่จ่ายค่าเยียวยาตามคำสั่งศาล ด้านแฟนเก่า รับต่อยไป 1 ที เพราะมีปากเสียง ไม่คิดว่าจะตาบอด ยันไม่คิดเบี้ยวเยียวยา แต่ตอนนี้ตกงานไม่มีเงิน แถมฝ่ายญิงไม่ตาม เลยคิดว่าไม่เอาเรื่องแล้ว

-ปลัดอบต.โร่แจง คลิปตั้งวงเหล้าในสถานที่ราชการ ว่อนเน็ต ยันแค่ ดื่มน้ำเปล่า ไม่ได้ร่วมก๊งกับสมาชิกอบต. แต่ยอมรับมีเหล้าตั้งในที่แบบนี้ถือว่าผิดระเบียบ แต่ห้ามยาก เพราะต้องทำงานร่วมกัน เชื่อกลุ่มคนไม่หวังดี แอบถ่ายเพื่อกลั่นแกล้ง

-ตุ๊กตา เดอะวอยซ์ โพสต์อุทาหรณ์ “โรคขี้เต็มท้อง” หลังคลื่นไส้ เรอ อาเจียน ผายลมเยอะ ไปหาหมอถึงรู้คำตอบ ยันไม่เคยท้องผูก ขับถ่ายปกติ แต่เกิดจากการอั้นอึเวลาปวด ทำให้ถ่ายได้ 30 - 50% จึงเกิดอาการตกค้าง แนะใครเสี่ยงควรไปพบแพทย์ อย่าหายาทานเอง

-อย่าหาทำ! สาวตั้งโอนสายเข้าโรงพัก ทำป่วนทั้ง สภ. ต้องรับสายแก๊งทวงหนี้ 50 กว่าสายต่อวัน พยายามแจงว่าเป็น “ตำรวจ” ก็ไม่เชื่อ ถูกด่ารัวๆ สุดท้ายเจอตัว “บัวผัน” เป็นคนตั้งโอนสาย ตำรวจจัดชุดใหญ่ โทรอบรมทำแบบนี้ไม่ได้

-อธิบดีกรมอนามัย แนะคู่รักตรวจ ATK ก่อนมีเซ็กซ์ ฉลองวาเลนไทน์ ต่างจากปีก่อนที่เน้นให้เว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากระหว่างกัน ลดความเสี่ยงติดโควิด และเตือนระวังการแออัดช่วงเวียนเทียน วันมาฆบูชา

-หมอปลา นำทีมบุก! วัดบางหญ้าแพรก สมุทรปราการ ลุยจับ เจ้าอาวาสมั่วสีกาคากุฏิ หลวงพ่ออ้าง "เค้าหนีมาพึ่งใบบุญ จึงต้องช่วยเหลือ" ชาวบ้านนับร้อยตะโกนด่า ไล่สึกพ้นวัด


เรื่องเล่าการเมือง

-กรณีรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยการไม่เข้าประชุม ครม. และสุดท้าย ครม.ให้กระทรวงมหาดไทยไปทำรายละเอียดมาเพิ่มเติม วันนี้นายกฯให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้

หลักๆ มี 3 ประเด็น คือ

-ยืนยันว่ารัฐบาลต้องดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปเพราะเกี่ยวกับหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จึงต้องแก้ปัญหา

-เรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าจะพูดคุยกันได้ และไม่ว่าจะมีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามมติ ครม. ซึ่งก็ไม่แน่นอนว่าในการนำเข้า ครม.ครั้งหน้าจะได้ข้อสรุปเลยหรือไม่

-และ ย้ำว่าในการดำเนินการเรื่องนี้จะไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร

-ภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ แจงเหตุผลไม่เข้าร่วมประชุม ครม.และจุดยืนเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำรักษามารยาททางการเมือง ไม่สร้างความขัดแย้ง

ใจความสำคัญของแถลงการณ์ เป็นการชี้แจงเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. โดยระบุว่า เป็นไปตามที่ได้เคยแสดงเจตนารมณ์กับนายกรัฐมนตรี ไว้แล้วว่า หากมีการนำวาระนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย จะขอสงวนสิทธิ แสดงความเห็นคัดค้าน "ไม่ใช่หลบหน้า หรือ หายตัวไปเฉยๆ "

และมีการอธิบายเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ กทม.เสนอ และ ระบุว่า ในเรื่องค่าโดยสารที่ กทม.คำนวณเป็น 65 บาท กระทรวงคมนาคมคำนวณได้ต่ำกว่า 65 บาท

และระบุว่าในการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทย ยึดหลักการ 3ข้อ คือ

1.พรรคภูมิใจไทย พิจารณาในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ และ ประชาชน สูงสุด พร้อมกันนี้ ต้องรักษามารยาทการร่วมรัฐบาล และไม่สร้างความขัดแย้ง ที่จะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล

2.พรรคภูมิใจไทย เสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ คือ กทม. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบ และ หลักธรรมาภิบาล ซึ่งหากมีการดำเนินการครบถ้วน มีข้อมูล เอกสารใหม่ ที่ครบถ้วน พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะพิจารณาใหม่ และให้ความเห็นชอบ

3.พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร คุ้มครองประชาชนผู้บริโภค หรือ ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการกำหนดราคาค่าโดยสาร และได้รับการบริการที่ดี เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบกิจการ

และ ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีความขัดแย้งกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แต่การทำงานของพรรค มีแนวทางที่ชัดเจน

-มีประเด็นต่อเนื่องเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ ล่าสุด นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดประเด็นดุเดือด

โดยย้ำว่า การตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมา เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ ในกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ไม่เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯอีก เพราะจากสถานการณ์ตั้งแต่ 4 กันยายน 2564 ที่มีกระบวนการคิดล้มล้างนายกรัฐมนตรีในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบกับสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีความสงบ มีการกดดันนายกฯตลอดเวลา ซึ่งตนยอมไม่ได้

นายเสกสกล ระบุว่า ที่บอกแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะคุมพรรคพลังประชารัฐไม่อยู่ แต่ต้องเผื่อไว้ ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐ แข็งแรงและก็ยังมั่นคงเสนอพลเอกประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯต่อ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่จำเป็น

ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับพรรคพลังประชารัฐ และเชื่อว่าความสัมพันธ์ของ 3 ป ยังเหนียวแน่น แต่ที่กังวล คือ บรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินทั้งหมด

นายเสกสกล ยังบอกด้วยว่า ในอนาคตเตรียมที่จะเชิญ พลเอกประยุทธ์ เป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

-การประชุมสภาเมื่อวานนี้ มีการเสนอร่างกฎหมายรวม 4 ฉบับ ไฮไลน์ที่น่าสนใจ คือ ร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ปรากฎว่า ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โหวตสนับสนุนฝ่ายค้าน โดยไม่เห็นด้วยในการส่งร่าง ให้ครม.กลับไปพิจารณาภายใน 60 วัน

โดยร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่เสนอโดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล สาระสำคัญ เป็นการปลดล็อกในการขออนุญาตผลิตสุรา เพื่อการค้าสำหรับผู้ผลิตรายย่อย ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่เกิดปัญหาสภาล่มไปก่อน

และสุดท้าย ที่ประชุมสภา ลงมติ 207 ต่อ 196 เสียง เห็นด้วยที่จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าว ไปให้ครม.พิจารณาภายใน 60 วัน ก่อนเสนอกลับเข้าสู่สภา เพื่อลงมติรับหลักการในวาระที่ 1

ทั้งนี้เสียงที่เห็นด้วย ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.รัฐบาล ส่วนมติไม่เห็นด้วย  แน่นอนว่าเป็นเสียงของพรรคฝ่ายค้าน แต่ที่น่าสนใจ ยังมี ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จำนวน 14 คน จากทั้งหมด 18 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการโหวตสนับสนุนฝ่ายค้าน หลังออกจากพรรคพลังประชารัฐ

ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงการโหวตร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยย้ำว่า “เห็นด้วย เพราะเป็นความหวังของประชาชนรากหญ้า หรือ ผู้ประกอบการสุราพื้นบ้าน จะได้ลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นเราจะดึงโอกาสของพี่น้องประชาชนไว้ทำไม

-ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมส่วนใหญ่ เห็นด้วยให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ฯ ไปให้ ครม. พิจารณา และส่งคืนสภาฯ ภายในเวลา 60 วัน เช่นเดียวกับอีก 2 ฉบับที่เหลือ ก็ลงมติในทิศทางเดียวกัน

ซึ่งระหว่างการพิจารณา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ได้เตือนไปยังรัฐบาล ถึงการใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับดังกล่าว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่ารัฐบาลในฐานะผู้บังคับใช้กฏหมาย การพิจารณากฎหมายใดๆอาจจะต้องคำนึง ถึงงบประมาณ ด้วยว่ามีความคุ้มค่าหรือมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ แต่อีกด้านหนึ่ง อาจถูกมองได้ว่าเป็นการเล่นเกมยื้อ โดยเฉพาะกฏหมายที่เป็นผลงานและเป็นหน้าเป็นตาของฝ่ายค้าน

ขณะที่นายธัญวัจน์  กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ชี้แจงทั้งน้ำตา เสนอกฎหมายสมรสเท่าเทียม หวังผู้หลากหลายทางเพศ ได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฏหมาย แต่สุดท้ายรัฐบาลอ้างข้อบังคับโฉบไปยื้อต่อ



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fXJ_1TWbSzE

คุณอาจสนใจ

Related News