5 พรรคเปิดเวทีปราศัยใหญ่ หวังคว้าชัยเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม.ชี้ชะตา 30 ม.ค.นี้

ก่อนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กรุงเทพมหานคร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม คืนสุดท้ายที่จะปราศัยหาเสียงได้ วันนี้ 5 พรรคการเมืองเปิดเวทีปราศัยใหญ่ หวังช่วงชิงคะแนนเสียงโค้งสุดท้าย จากจำนวนผู้สมัคร 8 พรรคการเมือง ซึ่งมีการจับตาไปที่ผลการเลือกตั้งระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน ว่าจะวัดกระแสความนิยมในช่วงปลายรัฐบาลอย่างไร ท่ามกลางการจับตาการทุจริตเลือกตั้งด้วย 

นายสุรชาติ นำทีมงานเบื้องหลังที่ทำงานร่วมกันตลอด 17 ปีที่ทำงานการเมือง แม้จะได้เป็นส.ส.เพียง 1 สมัยกว่า 2 ปี และสอบตกในการเลือกตั้งปี 62 แพ้นายสิระ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐไปเพียงกว่า 2 พันคะแนน แต่ไม่เคยหยุดลงพื้นที่ จนเลือกตั้งครั้งนี้ นายสุรชาติ ขอโอกาสกอบกู้ศักด์ศรีชาวหลักสี-จตุจักร กลับเข้าสภาอีกครั้ง ท่ามกลาง ส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทยที่มาร่วมปราศัยใหญ่ครั้งสุดท้าย หวังประชาชนแสดงพลังว่าไม่ต้องการรัฐบาลชุดนี้อย่างถล่มทลายท่ามกลางการจับตาการทุจริตเลือกตั้งที่มีการตั้งผู้สังเกตุการณ์ในทุกหน่วยจนถึงการนับคะแนน


ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ก็หวังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ แม้จะมีปัญหาภายใน แต่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคก็ลงพื้นที่ปราศัยช่วงโค้งสุดท้าย และแม้ในบรรยากาศหาเสียงมีการขึ้นป้ายพลเอกประวิตร แต่ไม่มีป้ายพลเอกประยุทธ์ แต่พลเอกประวิต ได้ย้ำบนเวทีว่าพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และเชื่อมั่นว่าประชาชนจะเป็นผู้ติดสินเลือกนางสรัลลัศมิ์ เจนจาระ ผู้สมัครของพรรคที่มั่นใจว่าชนะ 100 เปอร์เซ็นต์

ส่วนพรรคก้าวไกล ก็มีความมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งเพราะครั้งที่แล้วมีคะแนนเป็นอันดับ 3 กว่า 2 หมื่น และครั้งนี้ นาย กรุณพล เทียนสุวรรณ ก็เป็นผู้สมัคร ที่เหมาะสมจะได้เป็นส.ส.ท่ามกลางนโยบายรัฐสวัสดิการ และการประกาศยืนเคียงข้างประชาชน ก็หวังจะเบียด 2 พรรคใหญ่ได้ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนจับตาการเลือกตั้งที่มีกลิ่นของความไม่โปร่งใส


ในขณะที่พรรคไทยภักดี ก็หวังได้ ส.ส.คนแรก และจุดยืนทางการเมืองที่เป็นพรรคเดียวที่กล้าประกาศปกป้องสถาบัน และสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสูตรไขว้ทางการเมือง ที่หากเลือกนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัตน์ ผู้สมัครของพรรคก็สนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และมีผู้สนับสนุนอย่างนายแพย์เหรียญทอง และนายถาวร เสนเนียม มาร่วมด้วย


ขณะที่ พรรคกล้า นายกรณ์ จาติกวณิช นำทีมนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครของพรรคปราศัย โดยมีนายแก้วสรร อติโพธิ และนายต่อตระตระกูล ยมนาค มาร่วมสนับสนุนด้วย ต่างคาดหวังจะได้ชัยชนะในฐานะอดีต ส.ส.และหวังเป็นทางเลือก ที่เป็นตัวแปรสำคัญว่าไม่ยึดโยงกับการเมืองที่เป็นอยู่

ส่วนผู้สมัครอีก 3 พรรค ทั้งนางสาวกุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ , นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์ และนายเจริญ ชัยสิทธิ์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ก็ลงหาเสียงเต็มที่และหวังทุกคะแนนเสียงนำไปสู่เปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่เป็นเพียงไม้ประดับในการเลือกตั้ง