สังคม
ศบค.เคาะปรับพื้นที่สีเหลืองเพิ่ม 25 จังหวัด นั่งดื่มสุราได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม
โดย pattraporn_a
20 ม.ค. 2565
80 views
วันนี้ ศบค. ชุดใหญ่ ได้มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิดอีก 2 เดือน พร้อมทั้งมีมติผ่อนคลายมาตรการให้ พื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว นั่งดื่มสุราได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว Test and Go จากทุกประเทศ
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบขยายประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือน เป็นการต่อครั้งที่ 16 มีผลตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์-31 มีนาคมนี้ พร้อมปรับระดับสีพื้นที่โดยลดพื้นที่ควบคุมสีส้ม จาก 69 จังหวัด เหลือ 44 จังหวัด และกำหนดให้ 25 จังหวัด ลงมาอยู่ในระดับพื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลืองแทน ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า ยังคง 8 จังหวัดตามเดิม ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมเป็นต้นไป
สำหรับ 25 จังหวัด จะมีการผ่อนคลายกิจการ-กิจกรรมมากขึ้น อาทิ การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 500 คน เป็นมากกว่า 1 พันคน / และกรณีของร้านอาหาร จะสามารถนั่งดื่มสุราได้ เช่นเดียวกับพื้นที่นำร่องสีฟ้า โดยขยายเวลาจากเดิม 3 ทุ่ม เป็นไม่เกิน 5 ทุ่ม แต่ย้ำว่า ต้องเป็นร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ หรือ Thai stop covid 2 plus และปฏิบัติตามมาตรการ Covid free Setting อย่างเคร่งครัด
ส่วนกรณีสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ต้องการปรับมาเป็นร้านอาหารนั้น โฆษกศบค. ระบุว่าให้ผู้ประกอบการปรับมาตรการตามที่กำหนด และขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและกทม.ได้เมื่อมีความพร้อม โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา จากเดิมก่อนวันที่ 15 มกราคม
นอกจากนี้ที่ประชุมศบค. ยังเห็นชอบมาตรการเดินทางเข้าประเทศ โดยการใช้รูปแบบTest and Go เริ่มลงทะเบียนได้ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งอนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ ขณะเดียวกันศบค.ยังได้เพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป คือ ชลบุรี ที่อำเภอบางละมุง เมืองพัทยา ศรีราชา เกาะสีชัง สัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและบางเสร่ รวมถึง จังหวัดตราด ที่เกาะช้าง และการเปิดพื้นที่ให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,129 คน หายป่วยกลับบ้าน 6,978 คน ที่ยังรักษาตัวอยู่ 82,734 คน เสียชีวิต 19 คน
