สังคม

ก.เกษตรฯ ออกมาตรการแก้ปัญหาหมูแพง-โรคระบาด ASF

โดย pattraporn_a

13 ม.ค. 2565

27 views

ปัญหาหมูเเพง เเละผลกระทบที่เกิดจากโรค"อหิวาต์เเอฟริกาในสุกร" หรือ ASF หลังจากหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวกดดัน เเละตั้งข้อสงสัยว่าภาครัฐ จงใจปกปิดข่าวโรคระบาดเอื้อประโยชน์ให้บุคคลใดหรือไม่ ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวมาจากกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉยต่อปัญหานี้ ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการควบคุมโรค หากพื้นที่ใดพบสุกร ASF ก็ให้ทำลายตามหลักวิชาการได้ทันที


นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี โดยบอกว่า จากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพง รวมถึงพบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา หรือ ASF กระทรวงเกษตรฯได้ออกมาตรการแก้ปัญหาออกมาอย่างต่อเนื่อง


โดยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง 574 ล้านบาท ให้กับผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กและรายย่อย และได้กำหนดมาตรการการควบคุมอย่างเข้มข้น โดยส่งชุดเฉพาะกิจลงตรวจสอบสภาวะโรคในพื้นที่เสี่ยง สุ่มตรวจสอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสุกรหนาแน่น ถ้าพบว่าพื้นที่ใดมีสุกรติดเชื้อ ASF ให้ทำลายตามหลักวิชาการได้ทันที


ส่วนการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง จากข้อมูลสุกรรายสัปดาห์ พบว่า ในปี 2564 มีลูกสุกรเข้าคอกเลี้ยงเฉลี่ยราว 350,000 ตัว เเละปัจจุบันจำนวนลูกสุกรเข้าเลี้ยง ยังคงมีตัวเลขใกล้เคียงกัน นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ ได้เตรียมมาตรการที่จะเพิ่มแม่สุกรให้กับหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ เเละทั้งในสถาบันการศึกษา เพื่อผลิตลูกสุกรเข้าสู่ระบบคู่ขนานกันไปด้วย


จากการลงพื้นที่ทราบว่ามีเกษตรกรจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการกลับมาเลี้ยงสุกรรอบใหม่ ซึ่งกรมปศุสัตว์จะเข้าไปสแกนพื้นที่เพื่อตรวจสอบเบื้องต้น ว่ามีความปลอดภัยหรือมีความเสี่ยงอยู่หรือไม่ จากนั้นจะคัดกรองเกษตรกร พร้อมกับตรวจสอบสภาพความพร้อมและความเหมาะสมของฟาร์ม ในการยกระดับมาตรฐานฟาร์มให้มีความปลอดภัย ด้านการควบคุมโรคที่สูงขึ้น



ล่าสุดที่จังหวัดตรัง เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ก็เปิดเผยว่า หมูเกิดโรคระบาดเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา หมูที่เลี้ยงตายทั้งหมดประมาณ 100 ตัว ทั้งแม่หมูตั้งท้อง และลูกหมู โดยนำทั้งหมดไปฝังทำลายในสวนปาล์มน้ำมัน


ด้านนาย นายพรชัย สุวรรณอัมพร นายกเทศมนตรีตำบลห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องว่าหมูตายลงจำนวนมากในพื้นที่จากการเกิดโรคระบาด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเร่งทำการสำรวจพื้นที่ความเสียหาย พบโรคระบาดเกิดขึ้นภายในฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเลี้ยงด้วยเงินทุนส่วนตัว ทั้งหมด 13 ฟาร์ม หมูตายเป็นเบือรวมประมาณ 3,500 ตัว และบางรายยังได้เก็บตัวอย่างเลือดส่งไปตรวจพิสูจน์หาสายพันธุ์ของเชื้อด้วยตัวเอง โดยพบว่าเป็นเชื้อ ASF แต่ทางเจ้าของฟาร์มไม่อยากมีปัญหากับปศุสัตว์จังหวัด จึงเก็บผลตรวจดังกล่าวไว้กับตัวเอง


ขณะนี้เกษตรกรต้องเลิกเลี้ยงชั่วคราว ปล่อยฟาร์มทิ้งร้าง เพราะไม่กล้าลงทุนเลี้ยงใหม่ โดยมีบางรายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ทำข่าว ถูกเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เดินทางเข้าถึงฟาร์ม พร้อมกับข่มขู่และต่อว่า

คุณอาจสนใจ

Related News