จับนายหน้า "บัญชีม้า" รายใหญ่ เชื่อมโยงเหยื่อคอลเซ็นเตอร์

ผู้เสียหายจากคดีแก๊งคอลเซนเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ซึ่งได้ร้องเรียนผ่านข่าว 3 มิติ และต้องการให้ตำรวจจับขบวนการรับจ้างเปิดบัญชีให้ได้ ล่าสุดตำรวจสืบสวนนครบาลได้ติดตามจับผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชี และผันตัวเองเป็นผู้รับซื้อขายบัญชีม้า ก่อนจะโอนไปยังบัญชีของชาวต่างชาติ

ผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดเผยเรื่องราวของตัวเองผ่านข่าว 3 มิติ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่าตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์แอบอ้างเป็นตำรวจ นับเป็นเหยื่อรายแรกๆ ที่เตือนภัยให้ประชาชนทราบถึงพฤติกรรมของมิจฉาชีพ หลังจากเธอได้โอนเงินไปทั้งหมดกว่า 2 ล้าน 9 แสนบาท

จากการแกะรอยของชุดลาดตระเวนออนไลน์ ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล พบบัญชีที่ผู้เสียหายโอนไป ชื่อ น.ส.ประครอง จำนวน 2,943,000 บาท และยังได้มีการโอนเงินไปหลายทอด ทั้งหมด 5 ราย โดย น.ส.ประครอง ซึ่งเป็นม้าบัญชีแรก เป็นผู้ขายบัญชีให้กับนายหน้า

ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้ขยับไปจับบัญชีม้าแถวสอง โอนไปยังนายคงเดช ซึ่งมีอายุเพียง 23ปี จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับและวางแผนเข้าจับกุมได้ที่ อ.เกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี

นายคงเดช ให้การว่า รู้จักคนรับซื้อขาย-บัญชี ทางเฟสบุ๊ค ซื้อบัญชีละ 2พันบาท จึงเปิดบัญชี 3 บัญชีและส่งไปยังอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยไม่ทราบว่าจะนำบัญชีไปทำอะไร

แต่จากการสืบทราบข้อมูลของตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบสวนนครบาล โดยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลพบว่านายคงเดช เพิ่งได้รับการประกันตัว จากคดีรับซื้อขายบัญชี ที่จ.นครราชสีมา และ ที่อ.ฝาง คดียังอยู่ระหว่างการประกันตัว และไม่เกรงกลัวกฎหมายออกมารับซื้อขายบัญชีอีก จึงถูกจับเป็นรอบที่ 3

บัญชีม้านับเป็นต้นทางของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ใช้ในการกระทำผิด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงสั่งให้เร่งปราบปรามจับกุมให้หมด หลังจากหัวหน้าเครือข่ายอยู่ต่างประเทศ ต้องรอการประสานงาน และให้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอันยอมความไม่ได้

ขณะนี้จะต้องประสานสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมมือกันตรวจสอบความผิดปกติของกลุ่มคนที่ไม่มีรายได้แต่เปิดบัญชีนับ 10 บัญชี มีเงินโอนเข้า-ออกวันละหลายล้านบาท