สังคม

ฮ.ทหารตก ครูฝึก-ศิษย์การบิน ดับสลด 2 นาย แม่อาลัย ลูกชายเพิ่งถ่ายรูปใส่ชุดนักบินให้ดู

โดย thichaphat_d

15 ธ.ค. 2564

71 views

เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) เวลาประมาณ 09.35 น. เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ ของศูนย์ฝึกการบินทหารบก จ.ลพบุรี รุ่น ฮ.ฝ. 480 เอนสตรอม (EN Stome) อายุเครื่องประมาณ 12 ปี หมายเลข 11-5146 ตกบริเวณข้างกำแพงสำนักงานไปรษณีย์ เขต 6 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หน้าค่ายจิรประวัติ


เจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิงเข้าที่เกิดเหตุ เพื่อฉีดไฟที่โหมไหม้จนสามารถควบคุมเหตุการณ์ได้ จากการตรวจสอบพบว่าได้รับความเสียหายทั้งลำในสภาพเป็นซากเศษเหล็ก มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุจำนวน 2 นาย ได้แก่
1. พันโท ปานพงษ์ บรรจงเปลี่ยน (ตำแหน่ง ครูการบิน โรงเรียนการบินทหารบก) พบศพอยู่ใกล้กับเครื่องฯ ด้านในที่ทำการไปรษณีย์
2. สิบโท ชนากร เปี่ยมเจริญ (ตำแหน่ง ศิษย์การบินทหารบก รุ่นที่ 66) พบศพอยู่บ่อน้ำใน กศน.อำเภอเมืองนครสวรรค์ นอกรั้วที่ทำการไปรษณีย์


โดยเฮลิคอปเตอร์ลำที่เกิดเหตุ เป็นเฮลิคอปเตอร์ฝึกแบบ 480 สังกัดโรงเรียนการบินทหารบก อยู่ในระหว่างภารกิจทำการฝึกบินหมู่นอกที่ตั้ง ในหลักสูตรศิษย์การบินทหารบก ชั้นประถม รุ่นที่ 66 ออกเดินทาง จาก จ.ลพบุรี ตั้งแต่เวลา 08.30 ปลายทางที่ จ.นครสวรรค์ โดยระหว่างเตรียมลงจอดที่สนามบินเกษตรได้เสียการควบคุม จนเกิดอุบัติเหตุทำให้อากาศยานเสียหายทั้งลำ และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 นายดังกล่าว

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุแคดดี้สนามกอล์ฟจิระประวัติ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปนาทีระทึก ความยาว 1.02 นาที  โดยได้บันทึกภาพขณะที่เฮลิคอปเตอร์กว่า 10 ลำ บินตามกันมา กำลังทำการฝึกการบินที่สนามบินเกษตร จ.นครสวรรค์ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งได้ร่วงตกสู่พื้นดินในเวลาไม่กี่วินาที คนที่ไปตีกอล์ฟและแคดดี้ผู้ถ่ายคลิปส่งเสียงร้องตกใจว่าเฮลิคอปเตอร์ร่วง โดยพูดว่า “ร่วงจริง ๆ ร่วงตรงไหนอะ” จากนั้นได้เกิดกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นและไฟลุกไหม้เฮลิคอปเตอร์


ทั้งนี้ นางสาวพัชรี บัวคลี่ แคดดี้สนามกอล์ฟจิระประวัติ ผู้ถ่ายคลิปขณะเฮลิคอปเตออร์ตก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกวาดหญ้าอยู่ที่สนามกอล์ฟกับเพื่อน 7-8 คน เห็นเฮลิคอปเตอร์บินมาเป็นแถว สวยดีจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ดูเล่นบังเอิญบันทึกภาพขณะเฮลิคอปเตอร์ตกได้พอดี ทีแรกไม่คิดว่าจะตก ทุกคนพากันส่งเสียงร้องตกใจ ถามกันว่า “ มันตกจริงหรอ”

จากนั้นเกิดกลุ่มควันลอยขึ้น เฮลิคอปเตอร์ที่บินตามหลังมา บินฉีกออกไปฝั่งซ้ายขวา หลังจากที่ เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นตก ลำอื่น ๆ ก็พยายามบินวนหาที่จอด ปกติตนทำงานอยู่สนามกอล์ฟเห็นเฮลิคอปเตอร์บินผ่านบ่อย ไม่เคยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายคลิป

ครั้งนี้ไม่รู้เหมือนกันเป็นเพราะอะไรมาโดนใจถึงหยิบมาถ่ายคลิป และบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ส่วนเพื่อนคนอื่นพากันถ่ายภาพนิ่ง โดยหลังเกิดเหตุรีบไปดูจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก เจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตคนหนึ่งขึ้นจากบ่อน้ำ เห็นแล้วสลดใจมาก เพิ่งเห็นบินผ่านไปแว้บ ๆ ต้องมาเจอเหตุการณ์สลดอย่างนี้ ตนถ่ายคลิปไปก็ขนลุกไป


นอกจากนี้มีผู้ขับรถอยู่บนถนนใกล้จุดเกิดเหตุ เห็นเหตุการณ์และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปขณะไฟโหมไหม้เฮลิคอปเตอร์ และบอกกับคนที่นั่งรถมาด้วยแจ้งโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า “เฮลิคอปเตอร์ตกในสำนักงานไปรษณีย์ ไฟลุกท่วมเป็นเรื่องจริง ขอให้มาเร็ว ๆ “


คนที่นั่งอยู่ในรถบอกว่าเห็นเฮลิคอปเตอร์ตกต่อหน้าต่อตา เห็นแล้วใจไม่ดี กลัวจะเกิดเหตุระเบิด ในคลิปจะคิดว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์พยายามพากันวิ่งออกมาจากอาคารช่วยกันดับเพลิง ก่อนที่รถดับเพลิงจะเข้ามาสมทบ


นอกจากนี้มีคลิปอีกมุมที่นายธนภัทร์ พาสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ กศน.อำเภอเมืองนครสวรรค์ ถ่ายไว้ขณะไฟกำลังโหมไหม้เฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟ พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งทาสีอยู่ใน กศน.ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นมีคนวิ่งมาบอกว่าเฮลิคอปเตอร์ตกจึงวิ่งออกไปดู เห็นผู้เสียชีวิตคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อน้ำ สภาพศพตั้งติดอยู่กับเบาะ มีสายนิรภัยรัดอยู่ที่ลำตัว ทีแรกตนคิดว่าเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่มาพลิกดูจึงได้ทราบว่าเป็นศพของ สิบโท ชนากร เปี่ยมเจริญ ศิษย์การบินฯ


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พูดคุยกับนางมะลิ อาจคิดการ อายุ 61 ปี แม่บ้านที่ทำการไปรษณีย์เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวอยู่หน้าที่ทำการไปรษณีย์ ได้ยินเสียงระเบิดดังตรงจุดเกิดเหตุ หันไปมองเห็นไฟลุกไหม้ ตอนเฮลิคอปเตอร์ตกตนไม่เห็น จากนั้นตนรีบนำสายยางไปฉีดดับไฟ กลัวว่าจะระเบิดซ้ำจึงถอยห่างออกมา

ขณะที่พนักงานไปรษณีย์ต่างพากันมาช่วยดับไฟและขยับรถออกจากจุดเกิดเหตุ “ภาพที่เห็นน่ากลัวตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อน” เจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันลำเลียงผู้เสียชีวิตออกมา ตนไม่กล้าดูเพราะกลัว ตอนนี้ยังใจหายอยู่เลย


ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ  บริเวณจุดเกิดเหตุมีการจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 2 นาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้มีการนำเชือกมาปิดกั้นพื้นที่โดยรอบไว้ เจ้าหน้าที่กองพันซ่อมบำรุงเครื่องบินทหารบก จ.ลพบุรี ได้มากู้ซากเฮลิคอปเตอร์กลับไปยังหน่วยฯ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

ด้าน พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เผยว่า กองทัพบกได้ส่ง “คณะกรรมการสอบสวนและวิเคราะห์สาเหตุอากาศยานอุบัติเหตุระดับกองทัพบก” ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบเหตุการณ์และรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในที่เกิดเหตุพร้อมกันนี้ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลที่เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งนี้เฮลิคอปเตอร์ฝึกแบบ 480 เป็นอากาศยานที่กองทัพบกใช้ในการเรียนการฝึกในหลักสูตรการบินและประจำการมาตั้งแต่ ปี 2555

กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการสูญเสียบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการบิน ที่ได้ทุ่มเทเสียสละ และเสียชีวิตโดยฉับพลันในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยกองทัพบกจะดูแลจัดการด้านพิธีศพ สิทธิกำลังพลและการอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด พร้อมกับจะเร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเร็ว


ส่วน ช่วงบ่ายวานนี้ (14 ธ.ค.) ภายหลังที่ร่างของผู้เสียชีวิตถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติเรียบร้อยแล้ว ได้มีการเคลื่อนศพ พันโท ปานพงษ์ บรรจงเปลี่ยน (ตำแหน่ง ครูการบิน โรงเรียนการบินทหารบก) และสิบโท ชนากร เปี่ยมเจริญ (ตำแหน่ง ศิษย์การบินทหารบก รุ่นที่ 66) ใส่โลงสีขาวคลุมด้วยธงชาติไทยอย่างสมเกียรติ

จากนั้นได้ยกโลงศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นาย ขึ้นเครื่องบินแบล็คฮอว์ค จากสนามบิน นครสวรรค์ ไปลงที่สนามบินสะพานนาค ภายในศูนย์ฝึกการบินทหารบก จ.ลพบุรี ท่ามกลาง ทหารกองเกียรติยศได้ตั้งแถวรอรับอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติ ๆ และ เพื่อนนักบินที่มาร่วมไว้อาลัย โดยมี พล.ต.วรุตม์ นนทวงษ์ ผบ.ศูนย์ฝึกการบินทหารบก พร้อมด้วยคณะฯ ร่วมรับศพด้วย


ก่อนเคลื่อนโลงศพขึ้นรถบรรทุกทหาร นำร่างไปทำพิธีรดน้ำศพ ตั้งบำเพ็ญกุศลประกอบพิธีทาง  ศาสนา ศาลาเดียวกันที่วัดดงสวอง (ดง-สะ-หวอง) ต.เขาสามยอด อ.เมือง  จ.ลพบุรี  เมื่อคืนที่ผ่าน  มาสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันศุกร์ ที่ 17 ธ.ค. นี้


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสมนึก บรรจงเปลี่ยน  อายุ 77 ปี  แม่ของพันโท ปานพงษ์ เผยว่า ลูกชายเป็นคนตั้งใจทำงานรักงาน โดยลูกชายพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์ฝึกฯ วันเสาร์อาทิตย์จะกลับบ้านมากินข้าวกับแม่ ปกติไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะลูกชายเป็นคนไม่ชอบพูด ก่อนเกิดเหตุสลดตนกำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน มีคนโทรมาบอกลูกสาว (พี่สาวผู้ตาย) ว่าเฮลิคอปเตอร์ตก ลูกชายเสียชีวิต ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น ไม่ทันได้ทำใจ เสียใจข้าวน้ำก็กินไม่ลง


ด้านร้อยตรี เสงี่ยม เปี่ยมเจริญ อายุ 74 ปี พ่อของสิบโท ชนากร เผยว่า ลูกชายมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักบิน จึงตัดสินใจเข้าเรียนด้านนี้ เพิ่งเรียนที่ศูนย์ฝึกการบินทหารบก จ.ลพบุรี ได้เพียง 3 เดือน และวานนี้ (14 ธ.ค.) เป็นวันแรกที่ต้องย้ายฝึกการบินไปที่ จ.นครสวรรค์ เป็นการทดสอบเก็บคะแนน แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปตอร์ตกอย่างไปคาดคิด

ตนเห็นข่าวเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.นครสวรรค์ ก็คิดว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่กลุ่มลูกชายไปฝึกหรือไม่ ก่อนจะมาทราบว่าเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นลำที่ลูกชายนั่งอยู่ และลูกชายได้เสียชีวิต ซึ่งอีกประมาณ 500 เมตร เฮลิคอปเตอร์ที่ทำการฝึกทั้งหมด 12 ลำ ค่อย ๆ ลดระดับกำลังเตรียมจะลงจอดที่สนามบินเกษตร แต่มาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน สาเหตุนั้นไม่ทราบแน่ชัด

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนและภรรยาได้ไปเยี่ยมลูกชายศูนย์ฝึกการบินทหารบก จ.ลพบุรี นำเสื้อกัน หนาว ของใช้จำเป็นไปให้ เพราะลูกชายจะต้องไปฝึกบินที่ จ.นครสวรรค์ ในวันนี้ (14 ธ.ค.) ตนได้สวมกอดลูกชาย เป็นครั้งสุดท้ายและบอกลูกชาย “ขอให้ทำให้สำเร็จ มีสมาธิและสติ กำคัน บังคับให้ดี ทำให้ดีที่สุด จะขึ้นเครื่องให้ยกมือไหว้เครื่อง” แต่แล้วก็ต้องมาสูญเสียลูกชายไป


ส่วน นางจรัญญา เปี่ยมเจริญ อายุ 56 ปี แม่ของสิบโท ชนากร กล่าวว่า ลูกชายอยากเรียนการบิน   ทาง ครอบครัวก็ตามใจให้เรียน ลูกจากไปเร็วเกินไปเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ต้องเสียลูกที่รักไป ที่ผ่านมาเวลาลูกชายเลิกเรียนจะวิดีโอคอลคุยกันประจำ กลางคืนอ่านหนังสือเสร็จก่อนนอน  ก็วิดีโอคอลมาหาแม่ ลูกจะเล่าให้ฟังว่าแต่ละวันเรียนเป็นยังไงบ้าง ฝึกอะไรบ้าง  


วันอาทิตย์ที่ผ่านนี้ ตนไปเยี่ยมลูกเพราะเขาจะต้องไปฝึกบินที่ จ.นครสวรรค์ วันนี้ (14 ธ.ค.) ตนพูดคุยกับลูกธรรมดา ยิ้มแย้ม นั่งกินข้าวด้วยกันไม่มีลางสังหรณ์อะไร ตนบอกกับลูกว่าจะฝึกบิน ไม่ต้องตื่นเต้น ให้มีสติ ในวันเกิดเหตุก่อนที่ลูกชายจะขึ้นรถไปฝึก ช่วงเช้าลูกชายได้ถ่ายภาพ  ตัวเองใส่ชุดนักบิน ส่งมาให้ดูทางไลน์บอกว่า “อยู่บนรถแล้วนะ รถจะไปส่งสนามบิน”  ตนตอบกลับว่า “ขอให้ปลอดภัยนะ” แต่ลูกไม่อ่านข้อความ เพราะเขาขึ้นเครื่องไปแล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้น


ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่ของสิบโท ชนากร เรียนรุ่นเดียวกันสนิทกันมากได้มาร่วมงานศพ โดยได้เข้าไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวสิบโท ชนากร เผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุตนทำการฝึกบิน พร้อมกับสิบโท ชนากร แต่อยู่เฮลิคอปเตอร์คนละลำกัน ตนอยู่ลำท้าย ๆ จากทั้งหมด 12 ลำ โดยสิบโท ชนากร มีความตั้งใจเรียนอยากเป็นนักบิน เสียใจและยังตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น “วันนี้ตั้งใจ มาส่งน้องเป็นครั้งสุดท้าย จะดูแลน้องแม้ว่าน้องจะจากไปแล้ว ให้สมกับที่ผ่านมาน้องดูแลเรา”

เพื่อนร่วมรุ่นของของสิบโท ชนากร  อีกคนเผยว่า มันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น  ทั้งนี้ตนไม่ได้ร่วมฝึกบินด้วย  ตนสนิทกับสิบโท ชนากร  หรือโอ๊ต ซึ่งเราสองคนเป็นลูกศิษย์ฝึกบินกับพันโท ปานพงษ์ บรรจงเปลี่ยน (ครูฝึกที่เสียชีวิต) โดยครูฝึกหนึ่งคนจะมีลูกศิษย์ 2 คน ยอมรับเสียใจมากสูญเสียทั้งครูฝึกและเพื่อนซึ่งเป็นคู่บัดดี้ ครูตั้งใจสอนอบรมศิษย์ให้เป็นคนดี สอนให้เป็นนักบินรักในความปลอดภัย พอทราบข่าวตนร้องไห้เพราะทำใจไม่ได้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7oN4klRsjaM

คุณอาจสนใจ

Related News