เหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ผุดไม่หยุด ผบ.ตร.ยัน ระบบคอมฯเพื่อกวาดล้าง เสร็จปีใหม่นี้

ยังคงมีผู้เดือดร้อนตกเป็นเหยื่อแอบพลิเคชั่นกู้เงินออนไลน์ หลายรายหลังจากมิจฉาชีพได้เบอร์โทรศัพท์ ก็จะมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาข่มขู่ให้โอนเงินต่อเนื่อง บางรายเกิดความเครียดจนคิดสั้น ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งสะสางคดีฉ้อโกงโดยมีโปรแกรมคอมเตอร์ใช้เป็นศูนย์รวมทั่วประเทศ



ผู้เสียหาย ที่เข้าไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นเงินกู้รายนี้ หลังจากถูกมิจฉาชีพข่มขู่ให้โอนเงินไปเกือบ5หมื่นบาท เมื่อเดือนก่อน หลังจากนั้น เบอร์ที่นำไปสมัครกู้เงินทีโทรศัพท์เข้ามาตลอด ล่าสุดโทรมาแอบอ้างเป็นเลขา ป.ป.ส. กล่าวหาว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัยฟอกเงิน คดียาเสพติด



ผู้เสียหายบอกว่า หลังจากตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้ออนไลน์และได้โอนเงินไปบัญชีม้า ปรากฎมิจฉาชีพโทรมาขู่ว่าบัญชีที่โอนไปครั้งก่อนเจ้าของถูกจับในคดียาเสพติด และจะขออายัดบัญชีของตนทั้งหมดไปตรวจสอบ เป็นที่น่าสังเกตว่า แก๊งหลอกกู้เงินออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จับคดียาเสพติด จะเป็นขบวนการเดียวกันและใช้บัญชีม้ากลุ่มเดียวกัน



และวันนี้โชเฟอร์แท็กซี่ ซึ่งค้างค่างวดแท็กซี่2หมื่นบาท และหวังได้เงินมาผ่อนค่างวด จากการเข้าไปกู้เงินออนไลน์ แต่แล้วถูกหลอกให้โอนไป 15,000 บาท ตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒิ ผกก.สน.ปากคลองสานได้เกลี้ยกล่อมและสอบถามพบว่าเครียดที่ไม่มีเงินผ่อนแท็กซี่และน้อยใจที่คดีไม่คืบหน้า จึงสอบถามพนักงานสอบสวน สน. เพชรเกษมทราบว่าอยู่ระหว่างขอเอกสารจากธนาคาร



ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าขณะนี้โปรแกรมที่จะรองรับคดีฉ้อโกงออนไลน์ซึ่งจะรวมทั้งคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความและชื่อคนร้ายเพื่อให้ง่ายต่อการสืบค้นจับกุมคาดจะนำมาใช้ได้ช่วงปีใหม่นี้



โดยโปรแกรมนี้ตำรวจทั่วประเทศสามารถใช้ได้รวมกัน หากมีผู้ต้องหาเป็นรายเดียวกันก็จะได้ทราบว่าทำผิดมากี่คดี การสะสางคดีจะได้ประสานกันได้เร็วขึ้น