สังคม

ราชทัณฑ์ เผย ‘เปรมชัย’ ป่วย 7 โรคเรื้อรัง แพทย์จ่อประเมินรักษานอกคุก หากอาการทรุดหนัก

โดย JitrarutP

9 ธ.ค. 2564

1.2K views

“กรมราชทัณฑ์” เผยผลตรวจสุขภาพ “เปรมชัย” พบป่วย 7 โรคเรื้อรัง อาการยังไม่น่าห่วง พบมีภาวะเครียด - ถ่ายเหลว แพทย์เตรียมประเมินตาม หากพบอาการทรุดหนักลงจะพิจารณานำตัวไปรักษานอกเรือนจำ


นาย ธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบกรณีของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาในคดีล่าเสือดำซึ่งถูกศาลพิพากษาตัดสินให้ต้องโทษจำคุก ภายในเรือนจําทองผาภูมิ โดยตั้งแต่เมื่อคืนนี้นายเปรมชัย มีอาการเครียดจากการที่ต้องถูกควบคุมตัวภายในเรือนจำ และนอนไม่หลับ แต่ยังสามารถรับประทานอาหารอ่อนได้ โดยแพทย์ประจำเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยที่มีอยู่ว่าจะสามารถควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจําทองผาภูมิได้หรือไม่ เบื้องต้นพบว่ามีอาการของโรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ ไขมันพอกตับต้อกระจก และโรคอื่นๆรวม 7 โรค


ซึ่งจากการตรวจของแพทย์ล่าสุดให้คำวินิจฉัยว่านายเปรมชัยยังไม่มีความจำเป็นต้องออกไปทำการรักษาตัวนอกเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ เนื่องจากอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ยังเป็นอาการเบื้องต้นที่สามารถรับประทานยาโรคประจำตัวที่ผู้ต้องขังนำมาด้วยและที่ทางเรือนจำมีอยู่ได้ โดยอาการที่ดวงตาของนายเปรมชัย เกิดขึ้นจากการไปผ่าตัดต้อกระจกและเกิดอาการคันระคายเคืองตามภาวะปกติที่เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องระมัดระวังการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้


ส่วนภาวะที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องอาการเครียดของ นายเปรมชัย ที่ส่งผลให้เกิดอาการถ่ายเหลว ซึ่งแพทย์จะเฝ้าติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดและจะมีการตรวจร่างกายวินิจฉัยตามห้วงเวลา แต่หากพบว่าหลังจากนี้ นายเปรมชัย มีอาการทรุดหนักลงก็จะพิจารณาว่าสามารถนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดกาญจนบุรีได้หรือไม่ หากความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องส่งเข้าไปทำการรักษาในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลหรือโรงพยาบาลเอกชน ตามสิทธิผู้ต้องขังมีอยู่ ซึ่งจากการสอบถามนายเปรมชัยและพวกทั้งหมดยังไม่ขอไปทำการรักษานอกเรือนจำและไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดเพิ่มเติม


ทั้งนี้ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เรื่องการอนุญาตให้นำตัวผู้ต้องขังไปรักษายังสถานพยาบาลอื่นนอกเรือนจำ จะขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ประจำเรือนจำว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร หากมีดุลพินิจเห็นว่าอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ไม่สามารถจะทำการดูแลรักษาได้ ก็จะนำตัวไปรักษาต่อยังสถานพยาบาลนอกเรือนจำ ซึ่งจะมีตั้งแต่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่กรุงเทพฯ


หากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่สามารถทำการรักษาได้อีก ก็จะพิจารณาส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงเพียงแค่สถานพยาบาลภายในจังหวัดที่เรือนจำตั้งอยู่เท่านั้น แต่อาจอยู่นอกพื้นที่ก็ได้หากมีความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ต้องขัง ซึ่งในระหว่างทำการรักษาจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้หลบหนีหรือทำผิดระเบียบ

คุณอาจสนใจ