สังคม

ผอ.กรมฯ มลพิษ แจ้งความ บี้เอาผิด เจ้าของที่ดินทิ้งของเสีย จ.ฉะเชิงเทรา

โดย pattraporn_a

8 ธ.ค. 2564

51 views

ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่เกิดเหตุ ผู้ลักลอบทิ้งในสวนปาล์ม อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังโดนขู่เอาชีวิต ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ เข้าแจ้งความกับที่สภ.สนามชัยเขตแล้วเช่นกัน เชื่อผลเอาผลวิเคราะห์ค่าของเสียต่าง ๆ เอาผิดให้เจ้าของที่ครอบครองที่ดินชดเชยความเสียหายได้


กรณีน้ำเสียสารเคมีที่มีผู้ลักลอบทิ้งในสวนปาล์ม อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เดือนก่อนและมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ มีผู้แจ้งความดำเนินคดีเจ้าของที่ดิน ฐานครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ


ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่เกิดเหตุ ตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หลังถูกคนที่ในขบวนการลักลอบทิ้งสารเคมี ข่มขู่จะเอาชีวิต


นายไพศาล ดวงแก้ว ผู้ใหญ่บ้านนาน้อย หมู่ 6 ตำบลท่ากระดาน ตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรสนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา หลังจากก่อนหน้านี้ มีคนรู้จักในหมู่บ้านบอกกับเขาว่า “เสี่ยคนหนึ่ง ต้องการชีวิตเขา” ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นการข่มขู่เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือแจ้งทางการ จากการที่มีผู้นำน้ำเสียสารเคมีมาทิ้งในท้องที่


จนถึงขณะนี้น้ำเสียที่ถูกลักลอบทิ้ง ยังไม่เคลื่อนย้ายออกไป แต่อบต.ท่ากระดานใช้รถแบ็คโฮ ทำคันดินลอมรอบบ่อให้สูงขึ้น ป้องกันการชะล้าง แต่นี่ยังไม่ใช่วิธีจะป้องกันการรั่วซึม หรือซึมลงดินในพื้นที่ได้ แต่เพราะไม่มีงบประมาณในเคลื่อนย้ายไปเก็บ หรือนำไปบำบัดได้ จึงต้องใช้วิธีนี้ชั่วคราว


ล่าสุด ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ เข้าแจ้งความกับที่สภ.สนามชัยเขตแล้ว ให้เอาผิดผู้ครอบครองที่ดินแปลงที่ทิ้งสารเคมี ซึ่งเป็นที่ดินสปก.ฐานปล่อยให้มีกากของเสียอยู่ในพื้นที่ครอบครอง เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3


ซึ่งการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิด ตามพรบ.วัตถุอันตราย 2535 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ศูนย์ปฎิบัติการจะแจ้งไปยังสปก.เพื่อพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์ครอบครองเพราะทำผิดเงื่อนไขที่ดินเพื่อเกษตรกรรม


ทีมข่าวสามมิติเข้าตรวจสอบพบว่าที่ดิน สปก.แปลงนี้ ตกทอดมาถึงชายคนหนึ่งวัยกว่า 60 ปี อาศัยอยู่ที่หนองปรือ ชลบุรี ต่อมาชายคนดังกล่าวขายปากเปล่าให้ผู้มาติดต่อซื้อ ซึ่งเป็นคนในพื้นสนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา


และทางการสืบสวนของตำรวจพบว่าชายคนดังกล่าว รู้จักกลุ่มคนที่นำสารเคมีมาทิ้ง ทำให้การแจ้งความเอาผิดครั้งนีเท่ากับเริ่มต้นนับหนึ่งด้านคดี


หลักฐานที่นำไปสู่การแจ้งความตาม พรบ.วัตถุอันตราย คือผลการตรวจสอบด้วยเครื่องวิเคราะห์โลหะหนักแบบพกพา หรือ XRay fluorescence ต้นพบว่าคราบตะกอนมีทองแดง สังกะสี และปรอท สูงกว่าปริมาณความเข้มข้นที่กำหนด และในบ่อดิน ยังอาจมีของเสียหลายชนิด ถูกลักลอบทิ้งไว้รวมกัน เพราะตรวจพบไอระเหยสารอินทรีย์ด้วย


ทั้งหมดนั้นเพียงพอที่จะแจ้งความได้ และหากผลวิเคราะห์อย่างละเอียดออกมา ก็จะใช้เป็นหลักฐานแจ้งเอาผิดเพิ่มเติม เพื่อหาผู้เกี่ยวข้องทั้งกระบวนการมาดำเนินคดีและรับผิดชอบการฟื้นฟู  ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ คำนวณเบื้องว่าเฉพาะน้ำเสียราว 4 พันลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณเพื่อบำบัดราว 17 ลานบาท ยังไม่รวมการฟืนฟูดินและแหล่งน้ำใต้ดิน ซึ่งผู้ที่กระทำผิดต้องรับผิดชอบทั้งหมด

คุณอาจสนใจ