สังคม

นายกฯ ยันไม่ใช้ยาแรง ปิดประเทศสกัดโอไมโครอน - สธ.ตาม 252 คนตรวจ PCR ซ้ำ เพิ่มความมั่นใจ

โดย thichaphat_d

3 ธ.ค. 2564

13 views

วานนี้ (2 ธ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การแพทยระบาด โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า ได้มีการแจ้งเตือนแล้ว ตั้งแต่รับทราบข้อมูลจากเว็ปไซด์ ซึ่งขอชมเชยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อรับนโยบายไปแล้วก็ดำเนินการทันที ทั้งคณะรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุขและ ศบค.


นายกรัฐมนตรี ยังขออภัยในหลายอย่างที่คิดว่าจะทำได้ แต่เมื่อมีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงเข้ามา ก็ต้องมีมาตรการรองรับ แม้จะยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศไทย แต่ต้องให้ความสำคัญ ทั้งการเตรียมวัคซีนและยารักษา แต่ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด


ตนเข้าใจดีว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนต้องการความเป็นอิสระ ความสนุกสนาน และอยากเดินทาง แต่ไม่ว่าโรคอะไร ก็ไม่สามารถต้านทานได้หากไม่มีวินัย จึงขอร้องให้ความร่วมมือ พร้อมย้ำขอให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเชื้อใหม่เข้ามา และจะรอวัคซีนใหม่ อย่าลืมว่าเชื้อเก่ายังมีอยู่


สำหรับมาตรการการเปิดประเทศและคลายล็อกให้กับผู้ประกอบการ จะต้องเลื่อนออกไปบ้าง และขอความเห็นใจให้นึกถึงประชาชนคนอื่นด้วย หากรัฐบาลไม่ทำแบบนี้ ก็จะล้มเหลวทั้งหมด และกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่มีใครอยากจะทำ ซึ่งหลังจากนี้ ต้องพิจารณาเป็นรายเดือน โดยฟังความเห็นจากแพทย์และกระทรวงสาธารณสุข


พร้อมยืนยันว่าตนเองรับฟังความเห็นของผู้ประกอบการและเป็นคนสั่งให้เยียวยา อะไรที่ดำเนินการได้ก็ดำเนินการไปก่อน แต่พื้นที่ที่เป็นแบบปิดหรือเสี่ยงสูง ก็เลื่อนไปก่อนและจะดำเนินการเยียวยา โดยนำความเห็นเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้


ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ต้องตามกลับมาตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR 200 กว่าคนนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามอยู่ และขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ หากพบรีบแจ้งเจ้าหน้าที่


เมื่อถามว่า มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศรอบประเทศไทย เราจำเป็นจะต้องใช้ยาแรงหรือถึงขั้นปิดประเทศหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า “ยังๆ ตอนนี้มีการคัดกรองแบบ RT-PCR อยู่แล้ว และมีการกักตัวไว้ชั่วคราว จนกว่าจะทราบผล RT-PCR ส่วนตรวจแบบ ATK ต้องยกเลิกไปก่อน ถือว่ายังไม่ปลอดภัยในขณะนี้


ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เผยว่า สำหรับผู้ที่มาจาก 8 ประเทศที่พบโอไมครอน ประเทศไทยกำหนดไม่ให้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาช่วงวันที่ 27-30 พฤศจิกายน ได้ให้กักตัว 14 วัน เช่นเดียวกับผู้เดินทางจากประเทศอื่นในทวีปแอฟริกาและมีการตรวจหาเชื้ออีก 3 ครั้ง และได้มีการติดตามผู้เดินทางจาก 8 ประเทศที่เข้ามาก่อนหน้านี้ จำนวน 252 คน


โดยส่งข้อความไปที่แอปพลิเคชัน หมอชนะ และอีเมลที่ใช้ลงทะเบียน Thailand Pass เพื่อแจ้งให้ไปรับการตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลรัฐฟรี


ทั้งนี้ คนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อและถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีการตรวจหาเชื้อถึง 3 ครั้งผลเป็นลบ คือ ก่อนเดินทางเข้ามา 72 ชั่วโมง เมื่อมาถึงประเทศไทยวันแรก และเมื่ออยู่ในแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วัน ซึ่งผ่านช่วงที่มีโอกาสพบเชื้อสูงที่สุดไปแล้ว


เนื่องจากระยะฟักตัวเฉลี่ยของเชื้ออยู่ที่ 2-14 วัน พบสูงสุดช่วง 5-7 วัน และหลัง 7 วันพบค่อนข้างน้อย แต่ที่ให้มารายงานตัวและขอตรวจซ้ำอีกครั้งภายในวันที่ 14 นับตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อความมั่นใจมากขึ้น


“ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้เดินทาง โดยเบื้องต้น สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 6 สามารถติดตามได้ครบทั้ง 10 รายที่ได้รับแจ้งข้อมูลแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม


ทั้งนี้ หากโรงแรมทราบข้อมูลนักท่องเที่ยวที่เข้าพักว่ามาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงสามารถแนะนำให้ไปเข้ารับการตรวจได้ แม้จะเข้าประเทศไทยเกิน 14 วันแล้ว ส่วนคนไทย ขอให้เข้ารับการวัคซีน เข้มมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ผู้ให้บริการให้เข้มมาตรการ COVID Free Setting เชื่อว่าการควบคุมความเสี่ยงต่างๆ ยังอยู่ในแนวทางที่เราจัดการได้” นพ.เฉวตสรร กล่าว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/NyGhQcHMOJs

คุณอาจสนใจ

Related News