สังคม

สุดอลเวง คุณตา เส้นเลือดในสมองแตก ใช้สิทธิ์บัตรทองเข้าโรงพยาบาลใกล้บ้านในอ.เมือง เชียงใหม่ แต่เตียงเต็ม ต้องส่งไปรักษาตัวไกล 156 กิโลเมตร สุดท้ายเสียชีวิต

25 พ.ย. 2564

448 views

เรื่องราวสุดอลเวง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน หลังจากที่ นายสุทัศน์ บุญเป็ง อายุ 89 ปี เกิดเส้นเลือดในสมองแตก ในบ้านเลขที่ 56/1 ถ.เมืองสาตร บ้านเมืองสาตรหลวง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อ นางวราภรณ์ เชื้อเขียว อายุ 58 ปี ญาติของนายสุทัศน์ นำอาหารเย็นมาส่ง ได้มาพบขณะที่คุณตานั่งหมดสติพิงกำแพงอยู่ในบ้าน จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน


จากการตรวจพบ คุณตาสุทัศน์ มีสิทธิ์บัตรทองรักษาอีกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นโรงพยาบาลดังกล่าวได้แจ้งกับญาติว่าเตียงเต็ม เจ้าหน้าที่ได้ประสานหาเตียงรักษาโรงพยาบาลจอมทอง โรงพยาบาลสันป่าตอง โรงพยาบาลสันกำแพง โรงพยาบาลดอยสะเก็ด และโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ลำพูน แต่ไม่เตียงว่าง สุดท้ายประสานไปยังโรงพยาบาลฝาง ซึ่งระหว่างนั้นตาสุทัศน์ ต้องนอนรอการประสานหาเตียงโรงพยาบาลที่สามารถเข้ารับการรักษาได้อีกประมาณ 6 ชม. และต้องขับรถโรงพยาบาล จากโรงพยาบาลต้นสังกัดไปโรงพยาบาลฝาง ระยะทาง 156 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. และถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ 03.00 น. จากนั้นแพทย์ประเมินว่ามีอาการเลือดคั่งในสมองถึง 90% และนอนรักษาตัวโรงพยาบาลฝาง จนกระทั่งเสียชีวิตเวลา 16.45 น. ของวันที่ 23 พฤศจิกายน และทางญาติต้องฝากร่างของผู้เสียชีวิต ก่อนจะต้องเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปรับศพของคุณตาที่โรงพยาบาลฝาง ในช่วงเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายน ทำให้ต้องเสียเวลาในการเดินทาง การแจ้งตายในพื้นที่ จ.ฝาง ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการนำร่างคุณตากลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านในตัวเมืองเชียงใหม่ อีกกว่า 7 พันบาท


นางวรจิตร กฤตยานุกูล อายุ 61 ปี ญาติผู้เสียชีวิต บอกว่า ภายหลังจากที่ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งมายังโรงพยาบาลในพื้นที่ อ.ฝาง แล้วนั้น ทางพยาบาลได้แจ้งกับตนว่าอาการของคนไข้ค่อนข้างวิกฤติ และไม่สามารถรักษาได้ พร้อมกับบอกอีกว่าให้นำผู้ป่วยกลับบ้านจะดีกว่า แต่รถของโรงพยาบาลไม่มี และทางญาติผู้ป่วยต้องหารถมารับผู้ป่วยเอง ทำให้ตนต้องไปติดต่อรถโรงพยาบาลที่มาส่งก่อนหน้านี้ แต่ทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่า ตอนนี้รถที่ไปส่งผู้ป่วยได้เดินทางออกมาไกลแล้ว อีกทั้งทางโรงพยาบาลไม่มีนโยบายกลับไปรับผู้ป่วย นอกจากทางแพทย์จะทำเรื่องส่งกลับเท่านั้น และเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลที่นำส่งแล้วและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ทำให้ตนต้องแจ้งกับทางโรงพยาบาลให้ทำเรื่องแอดมิทที่โรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลก็แจ้งกับตนว่าสามารถรักษาได้ตามอาการเท่านั้น ทำให้ต้องนอนดูอาการผู้ป่วย จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด


นางวรจิตร บอกอีกว่า ตนไม่อยากติดใจแต่อย่างใด และอยากให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นกรณีศึกษา หรืออุทาหรณ์ในการส่งตัวผู้ป่วยไปรับการรักษาของโรงพยาบาล เพราะไม่อยากให้เกิดขึ้นเช่นนี้อีก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สิทธิบัตรทอง ,เชียงใหม่

คุณอาจสนใจ