เหยื่อศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ แจ้งความฐานค้ามนุษย์ ชี้มีตำรวจเอี่ยว

ผู้เสียหายจากการเข้าบำบัดยาเสพติดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง แจ้งความกองปราบดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์ ต่อผู้เกี่ยวข้อง พร้อมอ้างมีตำรวจเกี่ยวข้อง ขณะยอดผู้บำบัดที่ถูกย้ายไปโรงพยาบาลสนามเหลือ 50 คน เป็นผู้ป่วยจิตเวชถึง 20 คน

(22 ก.ย.) ผู้เคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ในวัดท่าพุราษฎร์บำรุง จำนวน 51 คน ยังจำเป็นต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม ในค่ายฝึกวิชาทหารเขาชนไก่ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง หลังจากทั้งหมด 20 คน ถูกย้ายออกจากวัดท่าพุราษฎร์ ตามมติที่ประชุมของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้

นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันระหว่างตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามว่า ญาติมารับผู้เข้ารับการบำบัดกลับบ้านแล้วประมาณ 219 คน ยังเหลือที่โรงพยาบาลสนาม 51 คน มีทั้งผู้บำบัดที่ยังติดต่อครอบครัวไม่ได้ และครอบครัวไม่พร้อมรับกลับ รวมถึงกลุ่มผู้บำบัดที่มีอาการป่วยจิตเวชอีกประมาณ 20 คน คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน เพื่อประเมินว่า เหลือผู้บำบัดที่โรงพยาบาลสนามนี้อีกกี่คน จากนั้นจะวางแผนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับตัวไปบำบัด รักษาตามระบบ

ชายวัย 23 ปี ที่กำลังจะกลับบ้าน บอกว่าเข้ามารักษาที่ศูนย์นี้ 3 เดือน ต้องอยู่อย่างแออัดและสกปรก จนป่วยเป็นโรคผิวหนัง ทั้งมือ เท้าและลำตัว หลังจากนี้เขาจะกลับไปรักษาตัวที่บ้าน

ขณะที่ ชายวัย 44 ปี ที่เดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อรักษาที่ศูนย์นี้ บอกว่าเขาติดเชื้ออีสุกอีใส ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่มาถึง และไม่ได้รับการรักษา กระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือในครั้งนี้

วันเดียวกันนี้ ผู้เสียหายจากการเข้ารับการบำบัด พร้อมนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และ ทนายความ แจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคีดผู้เกี่ยวข้องศูนย์บำบัดฯ ข้อหาค้ามนุษย์ โดยระบุว่ามีตำรวจหลายจังหวัดเช่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และอาสาสมัครในจังหวัดกาญจนบุรี เกี่ยวข้องด้วย

ทนายความ ระบุว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง กระทำเป็นขบวนการตั้งแต่จัดหาผู้บำบัด นำพา เรียกรับผลประโยชน์ กักขังทรมานทำร้ายทุบตี และระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในสถานบำบัดก่อนหน้านี้ 2-3 คนแต่ไม่มีการชันสูตรพลิกศพ

ขณะที่ กรมคุมประพฤติ ยืนยันว่าศูนย์สงเคราะห์บำบัดดังกล่าว ไม่ใช่สถานที่ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรม และระบุว่าได้ตรวจสอบประวัติผู้เข้ารับการบำบัดในศูนย์ดังกล่าวแล้ว ไม่มีผู้กระทำผิดที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปรับการบำบัด หรือรักษาที่นั่น อีกทั้งศูนย์สงเคราะห์บำบัดฯ ที่วัดพุราษฎร์บำรุง ก็ไม่ได้เป็นสถานที่ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบควบคุมตัว ที่เป็นภาคีของกรมคุมประพฤติ แต่อย่างใด