รองจเรตำรวจ เตรียมบินสอบเพิ่ม 'อดีต ผกก.โจ้' และพวก - จ่อออกหมายจับ ผู้ร่วมทีมเพิ่มอีก 6-7 คน

ความคืบหน้าคดีผู้กำกับโจ้ และพรรคพวกใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต มีรายงานว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลการสอบสวนคดี โดยพบอาจมีผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มขึ้นอีก 6-7 คน คาดว่าพนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักบานยื่นขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายจับเพิ่มได้

ซึ่งจากการตรวจสอบเชิงลึกในประเด็นการล่อซื้อยาเสพติด ของชุดสืบของผู้กำกับโจ้ หรือที่เรียกขานว่า ชุด05 มีการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานชัดเจน และมีพยานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงภรรยาผู้ตายยืนยัน และมีหลักฐานของเงินที่ล่อซื้อยาเสพติด และตัวยาเสพติด มีบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ลงวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 20.00 น.

โดย ร้อยตำรวจเอกทรงยศ คล้ายนาค รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองนครสวรรค์ แจ้งว่า ได้นำธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 64 ฉบับ ประกอบลด้วยหมายเลขต่างๆ รวมเป็นเงิน 64,000 บาท ไปล่อซื้อยาเสพติดจากนายมาวิน ภายในเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์

ขณะที่วันนี้ (30 ส.ค.) พลตำรวจโทศราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในฐานะโฆษก ภ.6 ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในคดีของผู้กำกับโจ้ ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ส่วนในช่วงบ่ายจะเดินทางไปสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม ที่เรือนจำกลาง จังหวัดพิษณุโลก

ด้านายณรงค์ จุ้ยเส่ย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางพิษณุโลก ล่าสุดพบว่ามีอาการผ่อนคลายมากขึ้น อาการเครียดลดลง ส่วนกระแสข่าวว่าทางเรือนจำจัดห้องแอร์ให้ผู้กำกับโจ้ ที่มีการแชร์กันทางโซเชียล ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทางเรือนจำกลางปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังอื่นทุกประการ ไม่มีผู้ใดได้รับอภิสิทธิ์หรือเป็นวีไอพีอย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นผลชันสูตรหาสาเหตุการตายของเหยื่อในคดีนี้ ที่ตอนแรกแพทย์ระบุในหนังสือรับรองการตายว่า เหยื่อเสียชีวิตเพราะพิษจากแอมเฟตามีนในยาเสพติด ยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่ภาพวงจรปิดของวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 13.39 น. จะเห็นผู้กำกับโจ้ และชุด 05 เป็นผู้นำนายมาวิน ผู้เสียชีวิต ไปส่งโรงพยาบาล ด้วยรถยนต์สีบรอนซ์เงิน ในภาพผู้กำกับโจ้ ให้ข้อมูลกับแพทย์และพยาบาลว่า ตำรวจวิ่งไล่จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด นานประมาณ 10 นาที หลังจับกุมผู้ต้องหามีอาการวูบ หมดสติ ไม่หายใจ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล

โดยแพทย์ให้การว่าได้ทำ CPR นายมาวิน พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ กลับมามีชีพจร แต่ไม่ลืมตา ไม่มีการเคลื่อนไหว แพทย์จึงให้ยาต่อเนื่อง ใช้เวลารักษาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายหัวใจหยุดเต้นเนื่องจาก ภาวะเป็นกรดในร่างกาย โดยแพทย์มีการใช้สายยางสอดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อตรวจสารเสพติดตามข้อมูลที่ผู้กำกับโจ้แจ้งไว้ตอนนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล

ต่อมาได้ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ในเวลา 16.30 น. และเสียชีวิต แพทย์ได้ระบุในใบรับรองการตายว่าสาเหตุมาจากพิษของสารแอมเฟตามีน