เปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านใช้คำดุเดือดถึงนายกฯ เป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจ

ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว มีรัฐมนตรีโดนยื่นอภิปรายทั้งหมด 6 คน รวมนายกรัฐมนตรี ได้แก่

1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

3.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

4.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

5.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

6.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ซึ่งถ้าอ่านในตัวญัตติจะพบว่ามีการใช้ถ้อยคำที่ดุเดือดมาก โดยเฉพาะในส่วนข้อกล่าวหาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีตั้งแต่คำว่า "ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรมจริยธรรมและไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผู้นำประเทศ"

บริหารสถานการณ์โควิดจนทำให้ "ระบบสาธารณสุขไทยล้มเหลว" บางรายทนไม่ไหวต้องตายกลางถนน ตายในรถ หรือตายคาบ้านตนเอง ตายยกครอบครัว จนถึงกับมีคำกล่าวว่า"ประเทศไทยเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร"

มีการระบุถึงการการกู้เงินของรัฐบาลว่านำมาใช้จ่ายอย่างไร้ทิศทาง ไม่ลำดับความสำคัญของการใช้เงิน งบประมาณหมดไปกับการจัดซื้ออาวุธ

สำหรับเรื่องการจัดหาวัคซีน ระบุว่า นายกฯดำเนินการโดยล่าช้า ขาดความจริงใจ พฤติการณ์มีลักษณะ "ค้าความตาย" โดยเห็นวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ เหิมเกริม คิดการใหญ่โตในการสร้างกำไรจากวัคซีนร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยหวังการกอบโกยผลประโยชน์บนซากศพและคราบน้ำตาของพี่น้องประชาชน

ช่วงท้ายมีการระบุว่า พลเอกประยุทธ์ อยู่ในสภาพของคนเป็นโรค "โอหังคลั่งอำนาจ" (Hubris Syndrome) ไม่อยู่ในภาวะที่จะเป็นผู้นำประเทศได้อีกต่อไป

หากปล่อยให้พลเอกประยุทธ์ บริหารราชการแผ่นดินต่อไป จะนำมาซึ่งความหายนะ ตามที่มีการกล่าวกันว่า ผู้นำโง่ เราจะตายกันหมด"

ทั้งนี้เบื้องต้นทางสภาฯ กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ 3 วัน คือ 31 ส.ค. - 2 กันยายน แต่ทั้งนี้ต้องรอคำตอบจากทางรัฐบาลด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ออกตอบโต้ฝ่ายค้านที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายรัฐบาล ดีแต่สร้างดราม่ารายวัน ชี้เป็นการตัดแปะข้อมูล มาผสม ให้คนอ่านเกิดความเกลียดชัง สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ดีแต่ใช้คำรุนแรง ด่าเหน็บแนมเสียดสี ดูหมิ่นดูแคลน ไม่สนใจความเป็นไปของทั้งโลก เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ แนะให้ไปหาหลักฐานมา ปมมุ่งหาประโยชน์จากวัคซีน ระบุสมเพชเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า ไร้ประสิทธิภาพ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้