แบงก์ชาติ ชี้แจงปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากใหม่ ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีผล 11 ส.ค.64

ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ชี้แจงการปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ที่จะมีผลวันนี้ (11 ส.ค.) เป็นไปตามแผน และสถาบันการเงินไทยยังเข้มแข็ง ไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไปอีก

โดยนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทต่อรายต่อธนาคาร ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้ (11 ส.ค.64)

เป็นไปตามกฏหมายคุ้มครองเงินฝาก ที่ทยอยปรับลดวงเงิน จากเดิมคุ้มครองเต็มจำนวนลงเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้ประชาชนมีเวลาปรับตัว ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สามารถคุ้มครองผู้ฝากเงินได้ถึงร้อยละ 98 ของผู้ฝากเงินทั้งระบบ

ขณะที่สถาบันการเงินในปัจจุบันมีความเข้มแข็ง สะท้อนจากระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ที่ระดับร้อยละ 20 ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค และมีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ซึ่งสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนเวลาการปรับลดวงเงินดังกล่าวออกไปอีก

โดยคุ้มครองบัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแส รายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ5.ใบรับฝากเงิน และเป็นบัญชีเงินฝากสกุลเงินบาทเท่านั่น

โดยมีสถาบันการเงินภายใต้กฏหมายคุ้มครองเงินฝากทั้งไทยและต่างชาติ รวม 35 แห่ง ยกเว้นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน อาคารสงเคราะห์ และธกส.ที่แต่ละแห่งมีกฏหมายจัดตั้งของตัวเอง ยังคุ้มครองเงินฝากเต็มวงเวิน ไม่ลดลงเหลือ 1 ล้านบาท

รับชมทางยูทูปที่ :https://youtu.be/lJd77Da2tcY