หนุ่มเครียด รถโดนชน ประกันไม่รับผิดชอบ ทนายไม่ช่วย ตัดสินใจปีนเสาหวังปลิดชีวิต

หนุ่มขายพวงมาลัย เครียดรถถูกชน แต่โดนประกันภัยรวมหัวกับทนายของตัวเอง เบี้ยวค่าซ่อมรถ แถมตำรวจไม่ติดตามคดี ผ่านมา 1 ปี ไม่มีรถใช้ตัดสินใจปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 'หนุ่ม กรรชัย' โทรให้กำลังใจ ขณะที่ผู้การฯ ปราจีนบุรี รับปากจะให้ความช่วยเหลือ และดูคดีให้

เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.64) เวลาประมาณ 15.00 น. พันตำรวจโท สุวิทย์ ซุยจรูญ สารวัตรเวร สภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งเหตุมีชายปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจร หน้าห้างโลตัส ถนนสาย 304 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมกับไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก บอกว่าจะกระโดดลงมา เนื่องจากเครียด เพราะมีปัญหากับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ที่ปฏิเสธการรับผิดชอบจากกรณีรถของตนถูกชนได้รับความเสียหาย

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับก่อนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณด้านบนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ที่มีความสูงประมาณ 60 เมตร พบนายชาตรี หนุ่มขายพวงมาลัยคนดังที่เคยแต่งชุดแอนท์แมน ขายพวงมาลัยบริเวณสี่แยกดังกล่าวและเป็นที่รู้จักของผู้ใช้รถใช้ถนน

โดยพบว่านายชาตรี ปีนขึ้นไปอยู่บนเสาระดับความสูงกว่า 30 เมตร กำลังไลฟ์เฟซบุ๊กระบายความเดือดร้อน และร้องขอพบพลตำรวจตรีนันทวุฒิ ละอองสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้พี่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ช่วยเหลือด้วย

นายชาตรี เล่าว่า เมื่อปี 2563 รถกระบะของตนเองถูกรถคู่กรณีชนจนได้รับควาามเสียหาย แต่ทางบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ปฏิเสธ เนื่องจากคู่กรณีหลบหนีและนำรถไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี ต่อมาตำรวจได้แจ้งกับนายชาตรีว่า เจ้าของรถมาแจ้งว่า รถคันดังกล่าวถูกโจรกรรมไปก่อนที่จะมาชน ซึ่งทำให้นายชาตรีแคลงใจว่า รถหายแต่ทำไมเพิ่งมาแจ้งหลังเกิดอุบัติเหตุชนกับรถของตน ตนเองจึงตั้งทนายสู้ แต่ปรากฎว่าทนายกลับไปเข้ากับอีกฝ่าย ทำให้เสียเงินค่าทนายไปฟรีๆ 5 หมื่นบาท ประกอบกับไม่มีรถใช้ทำมาหากิน จึงทำให้เกิดความเครียด ตัดสินใจปีนเสาสัญญาณดังกล่าว

ต่อมามีแม่ของนายชาตรี ภรรยา และเพื่อนฝูงคนสนิทที่ทราบข่าว เดินทางมาเกลี้ยกล่อมให้นายชาตรี แต่ไม่เป็นผล ซึ่งก็ทำให้แม่ของนายชาตรีเป็นลมไปหลายเที่ยว ต่อมานายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เดินทางมาเกลี้ยกล่อม และมอบเงินช่วยเหลือนายชาตรี เบื้องต้น 10,000 บาท นายชาตรี ก็ยังไม่ยอมลงมา จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง รวมถึงพี่หนุ่ม กรรชัย ก็ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับนายชาตรี ด้วย

จนเวลาประมาณ 19.30 น. มีพลเมืองดีขึ้นไปพูดจาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน 10 นาที นายชาตรี จึงตัดสินใจยอมลงมาจากเสา ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่และญาติพี่น้อง หลังจากลงมาแล้ว พลตำรวจตรี นันทวุฒิ ละอองสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ก็รับปากว่า จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมเต็มที่

พันตำรวจเอกพงษ์อนันต์ รักษาชาติ ผู้กำกับการ สภ.ระเบาะไผ่ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ รถของนายชาตรี ถูกคู่กรณีขับชนท้ายแล้วทำให้เสียหลักไปชนต้นไม้ข้างทาง จนเสียหายทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถ ขณะที่เจ้าของรถได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่ารถถูกขโมยไป ต่อมาตำรวจจับกุมคนร้ายดำเนินคดีในข้อหาโจรกรรมรถยนต์ ต้องโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน ขณะนี้ยังอยู่ในเรือนจำฉะเชิงเทรา

ส่วนเรื่องการเคลมประกัน ตอนแรกบริษัทประกันภัยออกใบเคลมให้นายชาตรี เรียบร้อย จะรับผิดชอบทั้งหมด จนนายชาตรีนำรถไปเข้าอู่ ซ่อมไปได้ประมาณ 1 เดือน แต่แล้วบริษัทประกันก็มาปฏิเสธไม่จ่ายค่าซ่อมรถ ทำให้รถต้องจอดทิ้งไว้ที่อู่ ทั้งที่ซ่อมได้ประมาณ 60-70% แล้ว เบื้องต้นทางผู้การฯ ปราจีนบุรี ได้ประสานไปที่บริษัทประกัน และอู่ซ่อมรถแล้ว โดยบริษัทประกันจะไปตรวจสอบใบเคลม ส่วนอู่ซ่อมรถจะลดราคาค่าซ่อมให้ครึ่งหนึ่ง จากราคาเต็ม 300,000 บาท