หมอศิริราช แนะวิธีรับมือโควิดเดลต้า ฉีดวัคซีน-การ์ดไม่ตก

แพทย์ศิริราช แนะวิธีรับมือโควิด-19 หลังสายพันธุ์เดลต้า แพร่เร็ว และทำให้ระบาดเพิ่ม คนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดเชื้อได้ แต่ปัญหาคือ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune"แนะวิธีรับมือ โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่เร็ว และเป็นปัญหา ส่วนวัคซีนต่าง ๆ ก็ป้องกันการติดเชื้อได้ไม่ดีนัก สถานการณ์จึงเลวร้ายลง

ถ้าแยกประเด็นการติดเชื้อ กับป่วยตายออกจากกัน เราจะเห็นทางออก และแนวนโยบายในการรับมือ โควิด-19 ได้

การติดเชื้อเวลามีสายพันธุ์ใหม่ วัคซีนตัวเดิม ป้องกันการติดเชื้อได้น้อยลง แปลว่า คนป่วยมาแล้ว 1 ครั้ง หรือเคยฉีดวัคซีนแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อได้อยู่ คือ รับเชื้อได้ และแพร่เชื้อได้ แปลว่า ระบาดเพิ่มขึ้น เมื่อมีสายพันธุ์ใหม่

ในคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะมีอาการหรือไม่มี จะมีเชื้อในร่างกาย(พบได้จากการตรวจน้ำลาย) ซึ่งแปลว่าพร้อมจะแพร่เชื้อ -คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว มีอาการน้อยลง และไม่แสดงอาการถึง 40 % เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียง 12%

หากไม่ป้องกันโรคเข้มข้นในทุกคน คนที่ฉีดวัคซีนแล้วรับเชื้อไม่แสดงอาการ จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อขนาดใหญ่ เราจึงได้เห็นระบาดระลอกใหม่ ในอังกฤษและอเมริกาแล้ว

แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นในการระบาดครั้งใหม่คือ อัตราการป่วยหนัก และอัตราการตาย ของทั้งอังกฤษและอเมริกา ต่ำมาก เพราะวัคซีน ทำงานได้ผล ทั้งในการป้องกันการป่วยหนักและการตาย

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว นายแพทย์อดุลย์ จึงเห็นว่า "เราต้องทำอย่างไร"

1.เร่งฉีดวัคซีน และเร่งรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเพื่อไม่ให้ป่วยหนัก โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยรับวัคซีน

2.ยังต้องการ์ดสูง ในทุกๆคน ทั้งที่ฉีดและยังไม่ฉีด ทั้งที่เคยติดเชื้อและยังไม่เคยติดเชื้อ ต้องรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือ ข้อนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ เพราะไทยยังมีเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนที่ต่ำ กว่ายุโรป หรือ อเมริกา หากปล่อยให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อ จะมีคนป่วยหนัก และตาย จำนวนมากกว่าที่เห็นในยุโรป หรือ อเมริกา

การคลายล็อก หรือลดความเข้มข้นในการป้องกันโรคเร็วเกินไป หมายถึง การระบาดที่เพิ่มขึ้นเร็ว และเกินกำลัง ด้านการแพทย์และสาธารณสุขจะรับไหว