สังคม

สภากาชาดไทย เปิดแผนกระจายวัคซีนโมเดอร์นา ฉีดฟรีให้ปชช. เช็กเลย! กลุ่มไหนเข้าเงื่อนไขบ้าง

โดย panwilai_c

16 ก.ค. 2564

367 views

สภากาชาดไทย ร่อนหนังสือถึง "ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด" แจงแผนกระจายวัคซีนโมเดอร์นา กำหนดเงื่อนไขผ่านอบจ. ย้ำห้ามนำไปขายต่อ และต้องฉีดฟรีให้ประชาชนใน 5 กลุ่มเป้าหมาย


โดยเป็นหนังสือด่วนที่สุด เรื่องขอความร่วมมือให้สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัดชีนจำนวนหนึ่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนต้องได้รับอนุมัติจาก คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และเงื่อนไขอื่นๆที่กำหนด จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดได้แจ้งให้อบจ.ที่มีความประสงค์จะซื้อวัคซีนฉีดให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าว และแจ้งมายัง สภากาชาดไทย ภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้


สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนสำหรับประชาชนของสภากาชาดไทย โดยกำหนดเงื่อนไขดังนี้


1. อบจ.ต้องจัดทำ "แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน" ในกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่

-คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน

-ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน

-แพทย์และพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร

-ผู้ที่ทำงานประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูโรงเรียนอนุบาล

-บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหาร


2.อบจ.ต้องเสนอ "แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน" โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด


3.อบจ.ที่เข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุนงบประมาณค่าวัคซีนโมเดอร์นา ราคา 1,300 บาท/โดส ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีน


สำหรับเงินค่าวัคซีน โดสละ 1,300 บาท นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการ ตามโครงการแล้ว เงินส่วนที่เหลือจะได้นำเข้าสมทบใน "กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคชีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน" ต่อไป


ทั้งนี้เงื่อนไขสำคัญ อบจ. ต้องฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมาย โดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด


เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควต้า ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้ว ขอให้ชำระเงินเต็มจำนวนที่ได้รับอนุมัติ ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้ ก่อน 12.00 น. จากนั้นจะทยอยจัดสรวัคชีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป


สำหรับวัคซีนที่ได้รับมาส่วนหนึ่งสภากาชาดไทยจะเป็นผู้ดำเนินการฉีดเอง อีกส่วนหนึ่งส่งต่อให้โรงพยาบาลภาครัฐที่ต้องการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ นอกเหนือจากนั้นจะส่งต่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำไปฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่สภากาชาดไทยกำหนดเท่านั้น โดยต้องจัดทำแผนการฉีดวัคซีนเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลงนามรับรอง ทางสภากาชาดไทยจึงจะจัดสรรวัคซีนให้ และต้องนำไปฉีดให้กับประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า รวมถึงห้ามนำไปจำหน่ายต่อ


ในส่วนของ อบจ. กำหนดกลุ่มที่จะได้รับจัดสรรวัคซีนไว้ 5 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มคนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง / ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป / บุคลากรทางแพทย์และพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร / ผู้ที่ทำงานประจำในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก / บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสกับประชาชน โดยจะต้องไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน


ส่วนเรื่องของราคารวมถึงสัดส่วนจำนวนที่จัดสรร จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณากำหนดให้ชัดเจนอีกครั้ง


ที่ผ่านมาสภากาชาดไทยได้พยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกมาตั้งแต่เริ่มมีวิกฤตการระบาดระลอก 3 มีการประสานกับทางบริษัทซิลลิค ฟาร์ม่า จำกัด ตัวแทนบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโมเดอร์นาในไทยมาก่อนแล้ว แต่เนื่องจากมีเงื่อนไขข้อกฎหมายที่วัคซีนต้องผ่าน อย. และต้องเจรจาผ่านหน่วยงานรัฐทางนั้น จึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอน ดังนั้นยืนยันว่า วัคซีนโมเดอร์นาที่ได้รับจัดสรรมา 1 ล้านโดส สภากาชาดไทยได้เจรจาและขอสำรองกับองค์การเภสัชกรรมไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เป็นคนละส่วนกับของหน่วยงานอื่น


ตามหนังสือได้ระบุ แผนในส่วนของอบจ.ต้องนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชน 5 กลุ่มเป้าหมาย ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน โควิด-19 มาก่อน ได้แก่ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ / ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป / บุคลากรทางการแพทย์ในถิ่นทุรกันดาร / ครูและเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เด็กเล็ก และบุคลากรที่ปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน


ส่วนไทม์ไลน์การจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา วันนี้ 16 กค.64 เป็นวันแรกที่ องค์การเภสัชกรรมหรืออภ.ทยอยลงนามสัญญาซื้อขายกับ รพ.เอกชนทั้ง 285 แห่ง ไปจนถึงวันที่ 21 ก.ค.64 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายที่รพ.เอกชนจะชำระเงินกับอภ. ก่อนที่ ในวันที่ 23 ก.ค. 64 อภ.ลงนามสัญญาซื้อขายวัคซีนโมเดอร์นากับ บ.ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด มหาชน โดย อภ.ยืนยันว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะได้รับวัคซีนล็อตแรก 5 ล้านโดสนำเข้าไทยแน่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News